พาราสาวะถี

จะว่าไปมันก็คือความจริง เพราะไทยเวลานี้ถือว่าเป็นประเทศที่ได้รับสิทธิจีเอสพีเป็นอันดับหนึ่งจากสหรัฐฯ หลังจากที่ก่อนหน้านั้นอินเดียครองตำแหน่งนี้ ก่อนที่จะถูกตัดสิทธิไปบานเบอะ


อรชุน

น่าจะโล่งอกกันเป็นแถวสำหรับรัฐบาลสืบทอดอำนาจ หลังจาก ไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะออกมายืนยันว่า การตัดสิทธิจีเอสพีสินค้าไทยเกือบ 600 รายการไม่เกี่ยวกับการแบน 3 สารพิษแต่อย่างใด พร้อมหยอดคำหวานสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างสองประเทศ ไทยถือเป็นประเทศเดียวในโลกที่ได้รับจีเอสพีจากสหรัฐฯ ดีที่สุด

จะว่าไปมันก็คือความจริง เพราะไทยเวลานี้ถือว่าเป็นประเทศที่ได้รับสิทธิจีเอสพีเป็นอันดับหนึ่งจากสหรัฐฯ หลังจากที่ก่อนหน้านั้นอินเดียครองตำแหน่งนี้ ก่อนที่จะถูกตัดสิทธิไปบานเบอะ คงอย่างที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าอย่าไปตื่นตระหนกและอย่าไปโยงเป็นเรื่องอื่น นี่คือกระบวนการทางกฎหมายของสองประเทศ ที่ต้องว่ากันตามขั้นตอน ทั้งหมดอยู่ที่การเจรจา การตีโพยตีพายแล้วไปโทษเรื่อยเปื่อยจะกลายเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี

ข่าวสารการเมืองนาทีนี้ความเข้มข้นดูจะลดน้อยถอยลง เหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากการปิดสมัยประชุมสภา แม้ว่าฝ่ายค้านจะจุดพลุว่าด้วยการเตรียมเปิดศึกซักฟอกรัฐมนตรีในรัฐบาลกลางเดือนธันวาคมนี้ โดยมีการแพลมรายชื่อรัฐมนตรีหลายราย แต่ก็ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ฟากรัฐบาลก็อาศัยการตีกินไปก่อน ตามที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มือบริหารจัดการรัฐบาลว่า ไร้ปัญหาในการตอบข้อสงสัย เชื่อได้ว่ารัฐมนตรีทุกคนจะตอบคำถามของฝ่ายค้านได้

ถือเป็นโจทย์ใหญ่ไม่น้อยสำหรับฝ่ายค้าน เวลานี้ที่เห็นประเด็นซึ่งคนยังให้ความสนใจคือ การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนเท่านั้น ที่พอจะเป็นเหตุให้หยิบยกมาเป็นเชื้อในการนำไปสู่การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แต่จะไปอธิบายกันในมุมไหนหรือมีประเด็นอะไรในเชิงข้อกฎหมายที่ทำให้สังคมมองเห็นว่า มันไม่ซ้ำกันสิ่งที่ได้พูดไปแล้วในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติที่ผ่านมา หากยังเป็นข้อมูลชุดเดิมก็เชื่อว่าจะได้รับความสนใจน้อย

คงต้องกรองกันหลายชั้น เพราะการเปิดศึกซักฟอกไม่ใช่แค่เวทีใช้สิทธิตามกฎหมายคือฝ่ายค้านสามารถยื่นได้ 1 ครั้งใน 1 ปี สมัยนี้เหลือเวลาเท่านี้ก็ขอจัดกันเสียหน่อย หากคิดเพียงเท่านี้ก็จะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายค้านไปในตัวด้วยเช่นเดียวกัน ถูกแล้วที่ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยพูดไว้ก่อนหน้า หากไม่มีประเด็นที่มีน้ำหนักพอ ฝ่ายค้านก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปยื่นซักฟอกรัฐบาลให้ตัวเองเสียเครดิตเปล่า ๆ

ที่น่าสนใจตอนนี้คงเป็นปมเรื่องการเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แม้ในที่ประชุมกมธ.จะไม่มีการหยิบยกประเด็นนี้มาหารือ แต่ก็ยืนยันแล้วว่า อุตตม สาวนายน ประธานกมธ.ได้ส่งเรื่องตามที่ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคสืบทอดอำนาจยื่นร้องเพื่อให้คณะกรรมาธิการส่งเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาวินิจฉัยว่า หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่มีปัญหาในการนั่งกรรมาธิการหรือไม่

ประเด็นอยู่ที่ว่าจอมหลักการจะใช้อำนาจตัวเองในการวินิจฉัยหรือถามไปยังฝ่ายกฎหมายรัฐสภา ซึ่งก็จะได้คำตอบเดิมที่ว่าเป็นได้ หรือจะใช้วิธีการเปิดประชุมสภาฯ ให้ที่ประชุมหารือร่วมกันต่อประเด็นดังกล่าว แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกันของฝ่ายค้านและรัฐบาลและไม่น่าจะเป็นผลดีต่อบรรยากาศทางการเมือง หรือเลือกที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย กรณีนี้สุดท้ายคงหนีไม่พ้นองค์กรอิสระดังกล่าว เพราะถือเป็นการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ท่วงทำนองของสิระต่อธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ คนส่วนใหญ่คงมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากความแค้นของพรรคสืบทอดอำนาจที่มีต่อพรรคการเมืองนี้ ส่วนเรื่องอื่นเช่นหวังสร้างกระแสสุดแท้แต่คนจะคิด ฟัง รังสิมันต์ โรม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อนาคตใหม่ พูดก็ชวนให้คิด ทำไมสิระจึงไม่ทักท้วงตอนที่ประชุมสภาฯ เสนอชื่อธนาธร มาเคลื่อนไหวหลังจากนั้น มันทำให้มองกันได้ไม่ยากว่าคิดอย่างไรและหวังผลอะไร

ส่วนเรื่องนี้บอกไว้ตั้งแต่เป็นข่าวหมาด ๆ โอกาสที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะเดินทางเข้าพบและให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือกมธ.ป.ป.ช.ที่มี พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เห็นได้จากการเดินหนีผู้สื่อข่าวเป็นหนที่สองวานนี้เมื่อถูกถามในเรื่องดังกล่าว ไม่เพียงเท่านั้น ดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ ยังออกมาตอบโต้แทน สมกับเป็นอดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาจริงๆ

โดยมีหนังสือย้อนถามไปยังกมธ.ชุดดังว่า 2 ประเด็นคือ การเสนอร่างงบประมาณของนายกฯ เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของกมธ.อย่างไร การที่อ้างว่าครม.ยังไม่สามารถเข้ารับหน้าที่เนื่องจากการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ถูกต้องครบถ้วนนั้น ศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำสั่งแล้วว่าไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา และให้เหตุผลว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์เป็นการกระทำทางการเมืองของฝ่ายบริหารกับพระมหากษัตริย์ ไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใด

นอกจากนี้ก่อนที่นายกฯ จะเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 63 ได้มีการเสนอร่างพระราชกำหนดโอนกำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ เป็นส่วนราชการในพระองค์ 2562 และร่างพ.ร.บ.เหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 รวมไปถึงร่างพ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรก็พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว โดยไม่มีการทักท้วงการทำหน้าที่ของครม.แต่อย่างใด

กรณีนี้จึงขอสอบถามเพื่อความชัดเจนจากกมธ.อีกครั้ง เพื่อให้การดำเนินการถูกต้องตามธรรมนูญ ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต้องรอคำตอบจากพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ว่าจะชี้แจงอย่างไร การเมืองภายใต้ขบวนการสืบทอดอำนาจที่บรรดาเนติบริกรชั้นครูวางกลไกไว้นั้น ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้กระบวนการทางกฎหมายต้อนให้จนมุม เพราะคนพวกนี้ปลาไหลยังเรียกพี่

Back to top button