ควันหลง ธปท.
*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ขึ้นบ้าง ลงบ้าง ตามกระแสข่าวที่มีออกมาในแต่ละวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนเห็นจนชินตา และไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์จากที่เป็นอยู่มากนักหรอก! ในขณะเดียวกันกลับมีเรื่องราวที่กลายเป็นขี้ปากให้ชาวหุ้นได้เม้าท์มอยกันอย่างสนุกสนาน เพราะหน่วยงานที่ควรจะทำตัวเชิงรุกดันมีอาการเกียร์ว่างเป็นเวลานานเกินไป บรรดาขาเผือกเลยสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นพะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ขึ้นบ้าง ลงบ้าง ตามกระแสข่าวที่มีออกมาในแต่ละวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนเห็นจนชินตา และไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์จากที่เป็นอยู่มากนักหรอก! ในขณะเดียวกันกลับมีเรื่องราวที่กลายเป็นขี้ปากให้ชาวหุ้นได้เม้าท์มอยกันอย่างสนุกสนาน เพราะหน่วยงานที่ควรจะทำตัวเชิงรุกดันมีอาการเกียร์ว่างเป็นเวลานานเกินไป บรรดาขาเผือกเลยสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นพะยะค่ะ
*หากมองเรื่องดังกล่าวแบบผ่าน ๆ ก็คงเป็นเรื่องทั่วไปของสังคมไทยที่มักมีการติฉินนินทากันตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นการแสดงความคิดเห็นบนความจริงใจเป็นที่ตั้ง “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนควรรับฟังเหตุผลของอีกฝ่ายด้วยความเต็มใจ เพราะบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เลิศเลอเพอร์เฟกต์ไปหมดทุกอย่าง เดี๊ยนถึงพยายามให้แฟนคลับเข้าใจเรื่องมันนี่เกมเพื่อทำให้หูตาสว่างมากขึ้นกว่าเดิม และสามารถกำหนดโพซิชั่นในการเล่นหุ้นได้ง่ายขึ้นไงล่ะคะ
*คิดดูแล้วกัน! ขนาดเฟดประกาศลดดอกเบี้ยอย่างเป็นทางการ แต่ตลาดหุ้นไทยกลับออกมาเป๋ไปเป๋มา ไม่มีทีท่ากระปรี้กระเปร่าเหมือนเช่นก่อนหน้านี้ จนสุดท้ายลงเอยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 1,601.49 จุด ลบไป 0.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.44 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า มนต์เสน่ห์ของตลาดหุ้นไทยไม่ตรึงตาตรึงใจ จึงไม่มีใครคิดจะเคาะขวารัว ๆ เพื่อทำให้ตลาดหุ้นไทยไปได้ฉิวเจ้าค่ะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ทุกคนหันกลับมามองปฏิกิริยาของผู้มีอำนาจโดยตรงอย่างธปท.กันอย่างพร้อมเพรียง เพราะเป็นหน่วยงานที่พยายามแก้ปัญหาเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่ามาเป็นเวลานาน แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรออกมาเป็นรูปธรรมสักอย่าง เพราะค่าเงินบาทก็ยังแข็งค่าไม่หยุดหย่อน จนวานนี้ลงมาแตะที่ระดับ 30.17 บาท ซึ่งเป็นการแข็งค่ามากสุดในรอบระยะเวลา 6 ปีนะจะบอกให้
*ปัญหาตรงนี้ทำให้คนทำธุรกิจส่งออกร้องคร่ำครวญกันดังระงม แต่สุดท้ายหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่ดี! บรรดาแมงเม้าท์ถึงเกิดอาการเบื่อหน่ายการเต๊ะท่าของพวกหัวสี่เหลี่ยม พร้อมกับจับเรื่องนั้นมาโยงกับเรื่องนี้กันวุ่นวายไปหมด “โมนิก้า” ถึงได้แต่รับฟังการเม้าท์มอยอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ เพราะคนพวกนั้นพูดอะไรออกมา ก็ถูกอีกอยู่ดีนะตัวเอง
*เหมือนกับครม. มีการประกาศให้วันที่ 30 ธ.ค. เป็นวันหยุดราชการ ขณะที่ธปท.บอกให้สถาบันการเงินยังทำงานปกติเหมือนเดิม ก็กลายเป็นประเด็นให้ผู้คนในแวดวงการเงินหยิบยกขึ้นมาเม้าท์อย่างสนุกสนานว่า “คนที่จ่ายภาษีต้องก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่คนที่กินภาษีกลับได้เฮฮาปาร์ตี้” มันเป็นเซนส์พื้น ๆ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยควรคิดได้หรือเปล่า ?…อิอิอิ
*ในเมื่อเห็นกันอยู่แล้วว่า ทุกวันนี้บริการของสถาบันการเงินมีประสิทธิภาพ และระบบออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ผู้คนทั่วไปเลยไม่เข้าใจเหตุผลของการไม่ประกาศให้เป็นวันหยุดยาว ทั้งที่เรื่องดังกล่าวช่วยกระตุ้นให้ผู้คนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และทำให้ระบบหมุนเวียนเงินทางเศรษฐกิจมีความคึกคักนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นการเม้าท์มอยที่น่ารับฟังมากพอสมควร พร้อมกับมีการตั้งข้อสังเกตว่า วันนั้นจะมีคนของธปท. เดินทางมาทำงานกี่คน (ช่วยตอบด้วย ชาวหุ้นเขาฝากถาม)…อิอิอิ
*ที่น่าสนใจก็คือ ตัวเลขของการใช้เงินในช่วงเทศกาลปีใหม่ผ่านระบบแบงก์ ไฟแนนซ์ ลีสซิ่ง มักขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ ผู้คนเขาเลยสงสัยคำชี้แจงที่ว่า เพื่อไม่ให้กระทบต่อธุรกรรมทางการเงิน จึงกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันทำการปกติ เท่ากับเป็นการยอมรับระบบเคลียริ่งของสถาบันการเงินไม่มีประสิทธิภาพใช่ไหม ? ถึงชอบทำตัวสวนทางกับความเป็นจริงตลอดเวลา หรือในอีกมุมหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่ปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป (หัวสี่เหลี่ยม) อ๊ะป่าว ?
*เม้าท์ถึงเรื่องการปรับตัวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมมองไปยังสถานการณ์ของหุ้นกลุ่มแบงก์เพื่อสะท้อนให้เห็นภาพอิ่มตัวของธุรกิจดังกล่าว เพราะการเด้งขึ้นของหุ้นแบงก์บางตัวในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน มันเป็นจังหวะนรกที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลยจริง ๆ เพราะมองในมุมของพื้นฐาน ก็ยังไม่ใช่จังหวะลุยเสียทีเดียว เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นคิดไตร่ตรองให้ดี ๆ ก่อนลุยสุดซอย (ลุยสั้น ๆ ก็พอมั้ง)..ด้วยความปรารถนาดี..น้องโมคนสวย!