ร้องไห้หนักมาก.. โมนิก้าและทีมงาน

*“โมนิก้า” กลายเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็กๆ ผิวพรรณบอบบางเพียงคนเดียวในตลาดหุ้นที่กล้าลุกขึ้นมาทวงถามความชอบธรรมให้กับนักลงทุนรายย่อย เรื่องไหนเห็นว่า ไม่ได้ช่วยรายย่อย มักนำเอามาเป็นประเด็นในการเม้าท์ เพื่อกระตุกต่อมของคนที่รับผิดชอบโดยตรงว่า ทำอะไรควรคิดถึงหัวอกรายย่อยไว้เยอะๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยในเที่ยวนี้..มันมาจากวิกฤติศรัทธาล้วนๆ นะจะบอกให้

*ประเด็นนี้ดูได้จากนักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการตอกย้ำความต้องการโยกเงินออกจากตลาดหุ้นไทย และเรื่องนี้เป็นผลมาจากตัวเลขเศรษฐกิจสร้างความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า จนมองไม่เห็นโอกาสในการฟื้นตัวระยะสั้น “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่กองทุนนกรู้สาดหุ้นออกมาอย่างหนักหน่วง จนพรายกระซิบต้องป้องปากเม้าท์ให้ฟังว่า อินไซด์หรือเปล่า ?

*งานนี้ไม่ต้องรู้ว่า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะรู้สึกร้อนใจบ้างหรือเปล่า? ก.ล.ต.จะออกมาเรียกความเชื่อมั่นแบบไหน? และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะออกมาช่วยรายย่อยอย่างไร? ล้วนเป็นคำถามที่ผู้มีอำนาจควรออกมาตอบให้สังคมได้รับรู้อย่างแจ่มแจ้ง เพราะคนส่วนใหญ่ของสังคมตลาดหุ้นมองว่า ช่วงตลาดหุ้นดีๆ ก็ขยันออกมาตรการมาสกัดหุ้น พอช่วงตลาดหุ้นแย่ๆ ไม่เห็นปริปากพูดอะไรให้รู้สึกดีเลยสักอย่างเจ้าค่ะ

*คิดดูแล้วกัน..ดัชนีรูดลงมาปิดที่ 1,447.44 จุด ลบไป 19.27 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนทิ้งหุ้น 1.70 พันล้านบาท มันมีนัยแอบแฝงพอควร ขณะที่แมงเม่าเข้าไปรับของมากถึง 1.90 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงไม่เข้าใจแนวความคิดของคนจากทางการว่า ทำไมชอบมองแมงเม่าเป็นพลเมืองชั้นสอง ทั้งที่นักลงทุนกลุ่มนี้เป็นคนคอยค้ำดัชนีในช่วงที่ดัชนีลงมาแรงๆ พะยะค่ะ

*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงมั่นใจสาเหตุที่ทำให้ KBANK PTT PTTEP ร่วงหล่นลงเละเทะเป็นผลมาจากฝีมือกองทุน เพราะไม่มีใครเก็บหุ้นไว้ในพอร์ตเยอะเท่าพวกพี่ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ข้อมูลก่อนหน้านี้ชี้ชัดว่า หุ้นทั้ง 3 ตัวโดนชอร์ตไว้เยอะมากๆ และคนที่กล้าทำเช่นนี้ ก็ไม่ใครเก่งไปกว่า… เดี๊ยนถึงแอนตี้กับมาตรการยิบย่อยที่ทำให้รายย่อยเข้าสู่การลงทุนยากขึ้นไงล่ะค่ะ

*เนื่องจากเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า กองทุนทุบหุ้นกันอย่างทนโท่ แต่ไม่มีใครปริปากด่าสักคน ขณะที่แมงเม่าเข้ามาดันหุ้น กลับโวยวายเหมือนตลาดจะกำลังจะวาย “โมนิก้า” ถือเป็นความไม่สมดุลของคนทางการ เพราะถ้ามองกันจริงๆ จะเห็นว่า หุ้นบลูชิพไม่รอดสักตัว ขนาดหุ้นยักษ์ใหญ่วงการก่อสร้าง ITDยังโดนถล่มเสียหมอบกระแต จนสุดท้ายลงมานอนอยู่ที่ 7.50 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 7% แถมสัญญาณแท่งเทียนปักหัวลงแบบนี้..บอกตรงๆ เหนื่อยใจสุดๆ นะจะบอกให้

*ขนาดเจ้าโปรเจ็กต์อย่าง SAMART  ยังไหลลงเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นทางกลับ “โมนิก้า” ถือเป็นบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง บวกกับก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นในกระดาน most active จู่ๆ ดันโผล่มาให้เห็นด้วยการทิ้งตัวลงมาปิดที่ 21.70 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 5.65% ทั้งที่ในช่วงต้นปีอยู่ที่ 45 บาท มันเป็นเรื่องที่น่าดีใจเสียทีไหนล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของหุ้นขยะ GENCO ทั้งรูปแบบ ทั้งรูปทรง และทั้งรูปการณ์ ล้วนอยู่ในทิศทางขาลงเหมือนกับรายข้างต้น แถมสตอรี่หลอกเด็กกลายเป็นมุกฝืดที่ขายไม่ออก “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเห็นใจคนที่เข้าไปรับของก่อนหน้านี้ เพราะมันไม่มีโอกาสทำกำไรจากหุ้นตัวนี้ได้เลย ล่าสุดหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 2.70 บาท ลบไป 0.32 บาท หรือลงไป 10% จากในช่วงต้นปีอยู่ที่ 7 บาท มันคืออะไร..ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

*ขนาดหุ้นน้ำผลไม้ TIPCO ปูข่าวมาแน่นปึ้ก สเต็ปงานมาเป็นช็อตๆ พอบรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจ หุ้นก็โดนถล่มจนเสียหายยับเยิน จนมองไม่เห็นหนทางที่จะเด้งขึ้นอย่างบูรณาการแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่นักเล่นต้องไปคิดกันเอาเองว่า ขาใหญ่คนไหนเป็นคนทิ้ง ? ก็ของมันรู้ๆ กันอยู่ การขึ้นของหุ้นตัวนี้มันเกิดจากผลพวงตรงไหน ล่าสุดหุ้นปิดที่ 11.50 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 10% แถมเป็นการโค้งหัวลงอย่างต่อเนื่อง สงสัยจะลงไปต่ำกว่า 10 บาทเสียกระมั้ง!

*ส่วนที่หลุดลงไปก่อนล่วงหน้า และยังโดนถล่มอย่างไม่มีเหตุผล “โมนิก้า”  ขอพุ่งเป้าไปที่ EA ล่าสุดหุ้นรูดลงมากองอยู่ที่ 19.10 บาท ลบไป 1.80 บาท หรือลงไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 360 ล้านบาท มันเป็นระดับที่ต่ำกว่าราคาเหมาะสมค่อนข้างเยอะ งานนี้ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อ และไม่ได้เชียร์ให้ขาย แต่เชียร์ให้แฟนคลับไปคิดเป็นการบ้านว่า ไตรมาส 2 รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าอีกหนึ่งแห่งเต็มๆ กำไรไตรมาส 1 โตเท่าไหร่..ไตรมาสนี้น่าจะโตเยอะกว่า ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

*ป.ล. วันนี้ต้องถามใจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนจะทำอย่างไรกับตลาดหุ้น เพราะเพียงแค่คำพูดที่หลุดลอยออกมา มันไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกฮึกเหิมเลยพับผ่าซิ!..น้องโมถึงร้องไห้หนักม้าก..มาก ก ก