ไก่กับไข่พลวัต2015

ทันทีที่มีข่าวว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ค่าเงินดอลลาร์ก็แข็งขึ้นในทันใด ผลพวงตามมาคือ ค่าเงินที่ผันผวนกันทั้งโลก และกระทบต่อราคาของสินค้าโภคภัณฑ์โดยตรง หนีไม่พ้นสินค้าที่โลกรู้จักกันดีคือ น้ำมันดิบ และทองคำ


ทันทีที่มีข่าวว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ค่าเงินดอลลาร์ก็แข็งขึ้นในทันใด ผลพวงตามมาคือ ค่าเงินที่ผันผวนกันทั้งโลก และกระทบต่อราคาของสินค้าโภคภัณฑ์โดยตรง หนีไม่พ้นสินค้าที่โลกรู้จักกันดีคือ น้ำมันดิบ และทองคำ

ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ที่ร่วงแรงชนิดแนวรับไหนก็เอาไม่อยู่ ตามด้วยทองคำที่กลายเป็นตลาดขาลงทันทีต่อเนื่อง ชนิดที่ว่าถูกแล้ว ยังมีถูกกว่าอีก เป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนผลพวงของอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่ส่งผลสะเทือนไปยังทั่วโลก ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์

ราคาน้ำมันจะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่า เพราะโยงใยกับความมั่งคั่งและการผลิตของประเทศต่างๆ ในฐานะปัจจัยการผลิตสำคัญทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ทองคำจะเป็นผลต่อเนื่องและส่งผลสะเทือนต่อเศรษฐกิจน้อยกว่า และจำกัดวงเฉพาะตลาดเก็งกำไร  (ไม่นับตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ ที่มีลักษณะเฉพาะแยกออกไป) 

โดยทั่วไปแล้วราคาทองคำจะร่วงหรือขึ้นแรงหลังจากการเปลี่ยนแปลงของทิศทางราคาน้ำมัน และมีลักษณะสุดขั้วมากกว่า ดังนั้น การร่วงลงของราคาทองคำเมื่อราคาน้ำมันดิ่งเหวลง  จึงมีลักษณะรุนแรงมากกว่าเป็นเรื่องปกติ

สำหรับนักลงทุน  โจทย์ใหญ่ที่ต้องถอดรหัสกันในยามที่ราคาน้ำมัน และทองคำกลายเป็นขาลงระลอกใหม่ยามนี้คือ  อะไรเป็นเหตุอะไรเป็นผล ระหว่างเศรษฐกิจโลกที่โตช้ากว่าอุปทานของน้ำมัน  หรือ ราคาน้ำมันที่ร่วงลง ทำให้เศรษฐกิจโลกโตช้าลง

คำตอบง่ายและสั้นคือ ไม่ต้องสนใจว่าอะไรเป็นเหตุหรือผล เพราะราคาน้ำมันและทิศทางเศรษฐกิจโลก จะเคลื่อนตัวไปทางทิศเดียวกันเสมอ แต่อาจจะมีรากของที่มาต่างกัน

หากคิดจากด้านอุปสงค์ ในยามที่เศรษฐกิจเป็นขาขึ้น เศรษฐกิจจะเป็นตัวการขับเคลื่อนราคาน้ำมัน เพราะความต้องการน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้นทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ เนื่องจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันมีผลต่อกำลังซื้อของผู้คนน้อยลง และหากราคาน้ำมันกลายเป็นขาขึ้นเพราะเศรษฐกิจเช่นนี้ เศรษฐกิจจะปรับสมดุลให้ชะลอตัวลงไปโดยปริยาย

ในมุมกลับกัน  ตัวเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ จะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพื่อการผลิตและบริการลดลง ขับดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเพราะความต้องการซื้อถดถอยลงไป

หากมองจากมุมของอุปทาน ราคาน้ำมันที่น้อยเกินความต้องการของตลาด อาจจะเพราะผลผลิตลดลง หรือเพิ่มน้อยกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ  จะขับดันให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งภาวะเช่นนี้ราคาน้ำมันเป็นเพียงผลพวงของปริมาณอุปทานและอุปสงค์ของตลาด

หากปริมาณน้ำมันมีอุปทานมากกว่าความต้องการของตลาด อาจจะเพราะผลผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากสวนทางกับช่วงเศรษฐกิจกำลังเป็นขาลงหรือโตช้า ราคาน้ำมันจะเป็นขาลงโดยปริบาย  เว้นเสียแต่จะมีการควบคุมผลผลิตลงไป กรณีการผลิตน้ำมันที่เรียกว่าออยล์ เชลล์ ของสหรัฐฯที่ขับเคลื่อนราคาน้ำมันให้กลายเป็นช่วงขาลงมากถึง 50% เมื่อ ปลายปีที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างเช่นนี้

ยามนี้ เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงโตช้าลง โดยเฉพาะยุโรปและจีน ทำให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มราคาทรงตัวหรือผกผันในระดับต่ำ เพียงแค่เริ่มมีข่าวว่าผลผลิตน้ำมันจากอิหร่านจะออกมาหลังจากเดือนมกราคมปีหน้าไป วันละประมาณ  5 แสนบาร์เรล ก็เพิ่มแรงกดดันให้ราคามีทิศทางที่จะปรับตัวลงไปอยู่เดิมแล้ว แต่ยังไม่สำคัญเท่ากับการที่ค่าดอลลาร์แข็งตัวขึ้นเพราะเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย  ทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นจากชาติที่ใช้เงินไม่ใช่ดอลลาร์ กดดันให้ราคาน้ำมันร่วงแรง  ไม่ใช่เพราะว่า ขาดอุปสงค์ แต่ด้วยสาเหตุเพียงว่า ไม่มีข่าวดีรออยู่ข้างหน้า

เมื่อราคาน้ำมันปรับตัวในระดับต่ำลงแบบซึมยาว  ผลกระทบถึงราคาทองคำในตลาดโลกก็เกิดขึ้นทันควันเช่นเดียวกัน การเคลื่อนตัวของราคาทองคำ (ตามรูปกราฟประกอบ) ที่เข้าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี จึงเป็นปรากฏการณ์ปกติ เพราะความสัมพันธ์ของราคาทองคำกับราคาน้ำมันโยงใยกันลึกซึ้งและมีทิศทางเดียวกัน แม้จะต่างกันทางกายภาพ ต่างกันในประโยชน์ใช้สอย หรือต่างกันในคุณค่าอย่างมาก 

 

ขาลงระลอกใหม่ของราคาน้ำมันและทองคำยามนี้ จึงไม่เกี่ยวข้องกับการพังทลายของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หากแต่มีลักษณะจำเพาะที่โยงเข้ากับตลาดเก็งกำไรโดยตรง

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ ราคาน้ำมันที่ลดลงนั้น มีคนที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ก้ำกึ่งกัน คือ คนซื้อได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง ส่วนคนขายเสียประโยชน์เพราะรายได้ต่ำลง ในขณะที่ราคาทองคำที่ลดลงนั้น มีแต่คนที่เสียประโยชน์ ไม่มีใครได้ประโยชน์เลย ผลลัพธ์ที่เราได้เห็นจึงมีลักษณะว่า ไม่มีใครอยากถือทองคำไว้ในมือกันมากนัก เพราะมูลค่าอนาคตของทองคำยามนี้ มีแต่จะเสื่อมค่าลง จนกว่าราคาจะกลับเป็นขาขึ้นระลอกใหม่

ความแตกต่างเช่นนี้ เป็นมากกว่าแค่เรื่องไก่หรือไข่ใครจะเกิดก่อนกัน อันเป็นปัญหาลิงแก้แหที่ตอบยาก

Back to top button