IP ลุ้นเทรดเหนือจอง 7 บ. ชูนวัตกรรมดูแลสุขภาพเกาะ “เมกะเทรนด์” โลกหนุนอัตรากำไรสูง

IP ลุ้นเทรดเหนือจอง 7 บ. ชูนวัตกรรมดูแลสุขภาพเกาะ "เมกะเทรนด์" โลกหนุนอัตรากำไรสูง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (5 พ.ย.) หลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นวันแรก โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. และหุ้นชำระแล้ว 206 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 103 ล้านบาท

ทั้งนี้ IP เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 46 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไปทั้งจำนวน กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 7 บาท สำหรับ IP ประกอบธุรกิจการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์

โดย นายทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IP เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวคิดที่จะเป็นผู้นำในการคิดค้นและนำเสนอผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยในการป้องกันรักษาโรค ช่วยชะลอวัยและมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ซึ่งอยู่ในกระแสที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ตลอดจนรองรับความต้องการของสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) โดยการเข้าจดทะเบียนใน mai ครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับ IP มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ นายทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ถือหุ้น 51.12% การกำหนดราคาเสนอขาย IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ซึ่งกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 7 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น P/E ที่ 53.85 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2561-30 มิถุนายน 2562) ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 26.66  ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.13 บาท ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการ

สำหรับบริษัทวางเป้าหมายภายใน 5 ปีก้าวสู่ผู้นำการคิดค้นและนำเสนอผลิตภัณฑ์สุขภาพที่แตกต่าง ด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยเพื่อการป้องกันและรักษาโรค การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น และชะลอวัย ภายใต้การขับเคลื่อนธุรกิจที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด “VALUE YOUR LIFE”ที่เชื่อว่าคุณค่าของชีวิต คือ สุขภาพที่ดีและการมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีสมดุลในระบบร่างกาย โดยใส่ใจในทุกรายละเอียดขั้นตอน ตั้งแต่การคิดค้น และนำเสนอผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพดีเยี่ยม

ทั้งนี้จากประสบการณ์ทำงานคลุกคลีในวงการทางการแพทย์มายาวนานเกือบ 27 ปี เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านเภสัชกรรม โดยตนเองและทีมงานเคยมีประสบการณ์ทำงานในบริษัทข้ามชาติประกอบธุรกิจยาเวชภัณฑ์โดยตรง ทำให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายตอบโจทย์ตามเทรนด์ทั่วโลก และของประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

ขณะที่อายุของประชากรมีแนวโน้มยืนยาวมากขึ้น จากข้อมูลล่าสุดของทางสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าอายุเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่เฉลี่ย 74.8 ปี ขณะที่ผู้หญิงจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ชาย ดังนั้น การพัฒนาของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้า มีโอกาสประชากรของไทยจะมีอายุเฉลี่ยเกิน 100 ปีได้ในอนาคต

“จุดเด่นผลิตภัณฑ์ของเรามุ่งเน้นด้านนวัตกรรมเกี่ยวข้องกับ Health&Beauty เกาะกระแส “เมกะเทรนด์” ของโลก จากผลสำรวจข้อมูล 10 ธุรกิจดาวเด่นธุรกิจ Health&Beauty มีโอกาสเติบโตติดอันดับหนึ่งมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพราะประชากรทั่วโลกมีความสนใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ประกอบกับในไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการป้องกันโรค การชะลอวัย และการดูแลเรื่องความงามมีความต้องการเป็นปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยหลายๆผลิตภัณฑ์เราก็ใช้เทคโนโลยีชีวภาพเนื่องจากทีมงานมีความเชี่ยวชาญ และผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นออกมาจำหน่ายจำเป็นต้องสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ด้วย ไม่ใช่แค่แข่งขันระดับประเทศ”

ปัจจุบันธุรกิจของ IP แบ่งเป็น 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามสำหรับคน ประกอบด้วย 1) ผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย (Wellness and Anti-Aging Products) ที่ไม่ใช่ยาซึ่งเน้นสร้างสมดุลให้อวัยวะภายในร่างกาย โดยพัฒนาจากสารอาหารที่มีหลักฐานการวิจัยว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพโดยปราศจากผลข้างเคียง ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ Probac7, Probac10 Plus, InuFOS, Beta Glucan Plus และ Multivitamin เป็นต้น และผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ TS6-Synbiotic

2) ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงาม (Aesthetic Innovation Product) ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ YUUU ซึ่งเป็นโปรไบโอติคที่ช่วยดูแลความสะอาด เช่น ยาสีฟัน และมูสทำความสะอาดผิวหน้า เป็นต้น และผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงามที่ช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า Perfectha, NABOTA และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด TS6-Lady Health

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์ ประกอบด้วย 3) ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยง ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมทั้งสุนัขและแมวที่คัดสรรวัตถุดิบเกรดเดียวกับอาหารมนุษย์ ภายใต้แบรนด์ MARIA , ผลิตภัณฑ์แผ่นรองซับสำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ Raku Pad นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ ที่บริษัทย่อยเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ อาหารสุนัขและแมว Monchou (มองชู) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แชมพูรักษาโรคผิวหนัง เวชสำอาง และยารักษาโรคต่างๆ สำหรับสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ชั้นนำ เช่น Dermcare MALASEB /PYOHEX, Dr. Choice, Pet Select เป็นต้น

และ 4) ผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์ ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ใช้ในการเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อการบริโภค ได้แก่ สารผสมล่วงหน้า (Premix) ที่ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์โดยลดการใช้ยาปฏิชีวนะบนพื้นฐานของแนวคิดอาหารปลอดภัย รวมทั้งผลิตภัณฑ์สุขศาสตร์และยาปฏิชีวนะต่างๆ ภายใต้แบรนด์ของบริษัทย่อย ได้แก่ MaxiGut Powder, MaxiMune Solution เป็นต้น และผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาเพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้แก่ลูกค้า ได้แก่ MFeed, ECOTRU EXTRA

สำหรับยอดขายบริษัทในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและชะลอวัยของคน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงพยาบาล 80% และกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป 20% ส่วนผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเป็นกลุ่มโรงพยาบาล 60% และกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป 40%

โดยตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมายังไม่เคยกู้เงิน เนื่องจากธุรกิจหลักไม่ได้มีความเสี่ยง และการขยายกิจการบนฐานของเงินทุน ดังนั้น วัตถุประสงค์เข้าระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อต้องการเงินทุนไปพัฒนาและวิจัย คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และอีกส่วนหนึ่งนำไปใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมทั้งต้องการให้พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมของความเป็นเจ้าของธุรกิจ นอกจากนั้น ยังมีแผนนำเงินไปใช้ขยายการตลาดส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมากขึ้น

“สินค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม โมเดลคล้ายกับบริษัทที่มีสินค้าเป็นนวัตกรรม บริษัทไม่ได้ผลิตเอง ไม่ได้มีโรงงานในประเทศ แต่เราไปร่วมพัฒนากับพันธมิตรต่างชาติรวมกันถึง 10 ประเทศ อาทิ คู่ค้าประเทศญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางคิดค้นผลิตภัณฑ์โปรตีนสูงช่วยเพิ่มส่วนสูง เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกเป็นต้น”

ส่วนผลประกอบการตลอด 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 59-61 บริษัทมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 58% ต่อปี ส่วนอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 9-15% ต่อปี แม้ว่ากำไรสุทธิมองว่าเติบโตได้น้อยในช่วงที่ผ่านมา แต่เป็นผลจากการใช้เงินด้านการตลาดขยายฐานลูกค้าในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป อย่างไรก็ตาม ด้านอัตรากำไรขั้นต้นมีนโยบายต้องไม่ให้ต่ำกว่า 50% บริษัทมีความสามารถทำกำไรได้สูงเพราะเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ไม่ได้กระทบการแข่งขันราคาในตลาดแต่อย่างใด

Back to top button