5 โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” SC หลังราคาลงลึกหนุน “ดิวิเดน ยีลด์” พุ่ง 7% เคาะเป้าสูง 3.68 บาท
5 โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" SC หลังราคาลงลึกหนุน "ดิวิเดน ยีลด์" พุ่ง 7% เคาะเป้าสูง 3.68 บาท
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้สำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC หลังราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมาก รับผลกระทบจากการชะลอตัวของยอดขายและยอดโอนในช่วงที่ผ่านมา และการเลื่อนเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุน ซึ่งถือเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เพราะแนวโน้มการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในปี 63 ที่คาดว่าจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากมีการโอนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท หนุนยอดโอนฟื้นตัวขึ้น และหนุนกำไรในปีหน้าเติบโต
ขณะที่โครงการแนวราบยังเป็นปัจจัยที่ยังช่วยหนุนผลการดำเนินงานในปีนี้ได้บ้าง แม้ว่าจะเผชิญความท้าทายจากการขายและการโอนคอนโดมิเนียมในปีนี้ ซึ่งจะมีการเปิดโครงการแนวราบใหม่ในช่วงไตรมาส 4/62 อีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 3.8 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถช่วยผลักดันยอดขายและยอดโอนได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี อีกทั้ง SC ยังเป๊นหุ้นที่ยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูงเฉลี่ย 6-7% ทำให้ยังมีความน่าสนใจลงทุน
ด้านนายดนัย ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นของ SC ในปัจจุบันปรับตัวลงอย่างมาก ซึ่งอาจจะสะท้อนจากกำไรในปี 62 ที่มีแนวโน้มออกมาไม่ดี จากยอดโอนและยอดขายในปีนี้ที่เกิดการชะลอตัว จากการชะลอโอนและการซื้อโครงการคอนโดมิเนียม
โดยคอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ คือ โครงการ 28 Chidlom ปัจจุบันยังมียอดโอนเข้ามาเพียงเล็กน้อย และในส่วนของยอดขายคอนโดมิเนียมยังคาดว่าติดลบราว 3% ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำให้ทั้งปีนี้ยอดขายก็อาจจะติดลบ เพราะ SC ได้เลื่อนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นย่านลาดพร้าวออกไปเป็นปี 63
อย่างไรก็ตามความน่าสนใจของ SC จะต้องมองไปที่ปี 63 ที่จะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่เข้ามา 3 โครงการ ซึ่งมากกว่าปีนี้ ทำให้แนวโน้มยอดโอนจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นจากปีนี้ ประกอบกับแนวโน้มการโอนโครงการแนวราบจะยังทำได้ดีต่อเนื่องจากปีนี้ ขณะที่กำไรในปีหน้าคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวตามการโอนที่กลับเข้ามา
นอกจากนี้ SC ยังเป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีราว 6% ทำให้ยังมีความน่าสนใจ แม้ว่าในปีนี้จะเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจก็ตาม
นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า SC มีความน่าสนใจในเรื่องของราคาหุ้นที่ปัจจุบันปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปีนี้และปี 63 ยังอยู่ในระดับ 7% แม้ว่าในปีนี้จะมีความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ จากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงชะลอตัว กระทบต่อการเปิดโครงการ ยอดขาย และยอดโอนของ SC ให้ชะลอตัวลงตาม โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียม แต่ยังมีกลุ่มโครงการแนวราบที่ช่วยพยุงภาพรวมผลการดำเนินงานไว้ได้
โดยในช่วงไตรมาส 4/62 SC ยังคงเดินหน้าเปิดโครงการแนวราบใหม่อีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 3.8 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้สามารถรับรู้เข้ามาเป็นยอดขายและรายได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายได้ทันที และการโอนของโครงการคอนโดมิเนียม 28 Chidlom คาดว่าจะเริ่มเห็นการโอนมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/62 ทำให้ช่วยหนุนยอดโอนได้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าปีนี้การโอนโครงการของ SC จะชะลอตัวไปบ้าง แต่มองว่าจะเห็นการฟื้นตัวในปี 63 เพราะจะมีคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่และเริ่มโอนมากถึง 3 โครงการ โดยประเมินว่ากำไรสุทธิในปี 63 จะเติบโต 4% มากกว่าปีนี้ที่คาดว่าเติบโต 3%
ด้านนักวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า แนวโน้มของผลการดำเนินงานของ SC ในปี 63 คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้น เพราะจะมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่สร้างเสร็จและเตรียมทยอยโอนจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 1.16 หมื่นล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีนี้ จะช่วยหนุนยอดโอนของ SC เพิ่มขึ้นมากกว่าปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ และทำให้กำไรในปี 63 จะเติบโตขึ้นจากปีนี้เล็กน้อย
สำหรับภาพรวมของผลการดำเนินงาน SC มองว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 2/62 และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 4/62 เป็นต้นไป จากการเริ่มโอนโครงการคอนโดมิเนียม 28 Chidlom และการเปิดขายโครงการแนวราบอีก 4 โครงการ มูลค่าเกือบ 4 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนยอดโอนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ขณะที่ราคาหุ้นของ SC ในปัจจุบันที่ปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมากมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า และยังเป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีราว 6-7%