SQ เซ็นคว้าสัมปทานเหมืองถ่านหินเมียนมายาว 25 ปี เริ่มรับรู้รายได้ทันทีปี 63

SQ เซ็นคว้าสัมปทานเหมืองถ่านหินเมียนมายาว 25 ปี เริ่มรับรู้รายได้ทันทีปี 63


นายกวิตม์ ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ เปิดเผยว่า บริษัท เมือง ก๊ก เอ็นเนอยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทฯ ถือหุ้นในอัตรา 70% ได้เซ็นสัญญาเป็นผู้รับสิทธิในสัมปทานในการทำเหมืองทั้งหมด ในโครงการเหมืองถ่านหิน เมืองก๊ก (Mai Khot Coal Mine) ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมาร์ ซึ่งเป็นเหมือง ที่มีขนาดใหญ่ ถึง 13 ตารางกิโลเมตร

ทั้งนี้ คาดการณ์ในเบื้องต้นว่ามีปริมาณถ่านหิน ทางธรณีวิทยา ประเภทซับบิทูมินัส และลิกไนต์ ประมาณ 100 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากเพียงพอ สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง ของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่

โดยในช่วงต่อไปบริษัทจะจัดทำแผนจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และสื่อสารชุมชน ก่อนการเข้าทำงานขุดขน ถ่านเชิงพาณิชย์ พร้อมกับการทำแผนการสำรวจลักษณะทางเคมี ปริมาณสำรองถ่านหินใน เขตพื้นที่ประทานบัตรโดยละเอียดควบคู่ไปกับการศึกษาความเป็นไปได้ใน  การลงทุนต่อยอดด้านพลังงานในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าในการก้าวสู่ การเป็นเจ้าของสัมปทานเหมืองแร่ และธุรกิจพลังงานที่มีความยั่งยืนทางธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทดำเนินโครงการขุดขนดินและถ่านหินภายใต้ 3 โครงการหลัก คือโครงการเหมืองแม่เมาะ 7 โครงการเหมืองแม่เมาะ 8 ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิคแห่งประเทศไทย และโครงการเหมืองหงสา โดยมีมูลค่างานที่เซ็นสัญญารอรับรู้รายได้ ประมาณ 29,000 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา

โดยหลังจากในครึ่งปีแรกปี 2562 บริษัทมีรายได้ รวม 2,448 ล้านบาท  และกำไรสุทธิ 151 ล้านบาทนั้น ในงวดไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในฤดูฝนซึ่งเป็นช่วง Low Season ของทุกปี บริษัทมีรายได้รวม 891 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของโครงการเหมืองแม่เมาะ 8 ที่ทยอยเพิ่มอัตราการผลิตของระบบสายพาน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทมีต้นทุนการดำเนินการเพิ่มสูงขึ้น

สาเหตุหลักมาจากต้นทุนน้ำมันและต้นทุนค่าเช่าจากการใช้งานเครื่องจักรในช่วงฤดูฝนที่ไม่ได้ตามแผน ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท และค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น 18 ล้านบาท จากโครงการเหมืองแม่เมาะ 8 ที่รับรู้เต็มจำนวน ส่งผลให้ไตรมาส 3/2562 มีผลขาดทุนสุทธิ 266 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2561 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 199 ล้านบาท อย่างไรตาม

ทั้งนี้ หากพิจารณาผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรก บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีขึ้น 60% โดยขาดทุนสุทธิลดลงเหลือเพียง 115 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 295 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกปี 2561

นายกวิตม์ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯมีปริมาณงานคงเหลือในมือประมาณ 29,000 ล้านบาท รองรับ การรับรู้รายได้ประมาณ 9 ปี ซึ่งสามารถแบ่งเป็น งานโครงการเหมืองแม่เมาะ 8 มูลค่าประมาณ 16,966 ล้านบาท, งานโครงการเหมืองหงสา ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมูลค่าประมาณ 9,118 ล้านบาท และล่าสุดบริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มจากโครงการเหมืองหงสา มูลค่ากว่า 2,265 ล้านบาทซึ่งอยู่ระหว่าง การจัดเตรียมเครื่องจักรและอุปกรณ์

โดยมีแผนการทำงานรับรู้รายได้ในเดือนมกราคม 2563 ตามกำหนดการ เดิม งานโครงการเหมืองแม่เมาะ 7 มูลค่าประมาณ 550 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 28,899 ล้านบาท (ยังไม่รวม งานเหมืองถ่านหิน รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ซึ่งยังไม่ได้เซ็นสัญญาขุดขนดินและถ่านหิน)

สำหรับ SQ เป็นผู้รับเหมางานเหมืองแร่ ที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทยและภูมิภาค CLMV มีความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรที่มีความรู้ และความสามารถเฉพาะด้าน รวมถึงทีมงานผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเหมืองมากว่า 34 ปี พร้อมทั้งยังมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ ที่สามารถ ตอบสนองกับลักษณะงานเหมืองครบวงจรได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญของบริษัทฯ

Back to top button