RBF ยิ่งกิน…ยิ่งโต.!?
จัดเป็นหนึ่งในหุ้นไอพีโอรอบปี 62 เพียงไม่กี่ตัวสำหรับบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาเมื่อวันที่ 24 ต.ค.62 ก็ยังสามารถยืนเหนือราคาไอพีโอ (3.30 บาท) ได้อย่างสง่างาม...
สำนักข่าวรัชดา
จัดเป็นหนึ่งในหุ้นไอพีโอรอบปี 62 เพียงไม่กี่ตัวสำหรับบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาเมื่อวันที่ 24 ต.ค.62 ก็ยังสามารถยืนเหนือราคาไอพีโอ (3.30 บาท) ได้อย่างสง่างาม…
โดยถึงวันนี้ราคาหุ้น RBF ปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว 39.40%
แหม๊..น่าอิจฉาคนที่มีหุ้น RBF ติดอยู่ในพอร์ต ณ ราคาไอพีโอซะจริง ป่านนี้คงรวยเละไปแล้ว…
RBF ถือเป็นหุ้นนวัตกรรม ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง สินค้าแบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสารแต่งกลิ่น รสและสีผสมอาหาร, กลุ่มแป้งและซอส, กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง, กลุ่มอาหารแช่แข็ง, กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาขายไป รวมทั้งมีธุรกิจโรงแรมอีก 2 แห่งที่เชียงใหม่ และชุมพร
ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นธุรกิจผลิตสารแต่งกลิ่น รสและสีผสมอาหาร ซึ่งถือเป็นผู้นำตลาด มีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยเฉพาะตลาดในประเทศ เรียกได้ว่าบริษัทน้อยใหญ่ที่อยู่ในไลน์อาหารและเครื่องสำอาง ต่างก็เป็นลูกค้า RBF ทั้งนั้น…
ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงพวกอาหารสำเร็จรูป ขนม นมเนย เครื่องดื่ม ที่เรากินกันนั่นแหละ กลิ่นต่าง ๆ ที่ผสมอยู่ในอาหารเหล่านั้น ก็ล้วนเป็นฝีมือของ RBF…
ยิ่งเดี๋ยวนี้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป หันมากินอาหารฟาสต์ฟู้ดส์ อาหารสำเร็จรูปกันมากขึ้น สินค้าของ RBF ก็ยิ่งแทรกซึมเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนมากขึ้นเช่นกัน
นั่นเท่ากับว่า ถ้าคนไม่หยุดกิน…RBF ก็ไม่หยุดโต..!
ตอกย้ำด้วยงบไตรมาส 3/62 ที่โชว์ฟอร์มแกร่ง ฟาดกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.15 ล้านบาท หรือ 71.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 61.82 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 668 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.81 ล้านบาท หรือ 1.95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 655 ล้านบาท
ส่งผลให้งวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท หรือ 9.76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 231 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 2,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96 ล้านบาท หรือ 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 1,938 ล้านบาท
สาเหตุหลักมาจากยอดขายสินค้ากลุ่มแป้งและซอส และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาขายไปเติบโตดี
บวกกับบริหารจัดการต้นทุนได้ดี…ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 10 ล้านบาท หรือ 14.81% เหลือ 145 ล้านบาท
จึงทำให้กำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงที่ 276 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31 ล้านบาท หรือ 13.26%
สมกับเป็นหุ้นพื้นฐานแกร่งสตอรี่งามจริง ๆ
แต่ขอเตือนว่าหุ้น RBF อาจไม่เหมาะกับการเก็งกำไร เนื่องจากราคาขึ้นลงไม่หวือหวา เป็นการค่อย ๆ ปรับขึ้นมากกว่า ฉะนั้นอย่าอุตริจะซื้อเก็งกำไรเชียวนะ…
แต่หากจะมีไว้ติดพอร์ตเพื่อการลงทุนระยะยาว…อันนี้ก็ไม่เลวนะ
…อิ อิ อิ…