ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นบ่ายนี้ ขานรับรัฐสภากรีซไฟเขียวมาตรการปฏิรูปชุด 2
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากที่รัฐสภากรีซได้อนุมัติแผนการปฏิรูปภาคธนาคารและกระบวนการยุติธรรม ตามที่กลุ่มเจ้าหนี้ได้กำหนดเป็นเงื่อนไขไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากที่รัฐสภากรีซได้อนุมัติแผนการปฏิรูปภาคธนาคารและกระบวนการยุติธรรม ตามที่กลุ่มเจ้าหนี้ได้กำหนดเป็นเงื่อนไขไว้
โดยดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,438.89 จุด เพิ่มขึ้น 156.27 จุด, +0.62% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดเช้าพุ่ง 1.3% แตะ 4,078.90 จุด
สำหรับความเคลื่อนไหวที่สำคัญในช่วงเช้าวันนี้ ได้แก่ การอนุมัติมาตรการปฏิรูปด้านการธนาคารและกระบวนการยุติธรรมของรัฐสภากรีซเมื่อเช้านี้ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราส ทำไว้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ โดยสมาชิกรัฐสภาให้ความเห็นชอบ 230 ต่อ 63 เสียง ขณะที่งดออกเสียง 5 เสียง
ทั้งนี้การให้ความเห็นชอบมาตรการดังกล่าวจะเป็นการปูทางสู่การเริ่มเจรจาเพื่อรับเงินช่วยเหลือวงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโรจากเจ้าหนี้ และเพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ตลอดจนลดความเสี่ยงที่กรีซจะต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
ด้านธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 2 ขยายตัว 0.3% ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 0.8% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.4% เนื่องจากการระบาดของโรคทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง หรือเมอร์ส (MERS) ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ในขณะที่การส่งออกยังคงซบเซา
ขณะที่กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 6.9 หมื่นล้านเยนในเดือนมิ.ย. ขณะที่การส่งออกเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 9.5% เทียบรายปี และการนำเข้าลดลง 2.9%
ส่วนยอดขาดดุลการค้าในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย. ร่วงลง 77.4% เทียบรายปี สู่ระดับ 1.7251 ล้านล้านเยน (1.39 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าที่ปรับตัวลง อันเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง
นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวจากทางนิวซีแลนด์ เมื่อธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3% ในวันนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ช้าลง และอัตราเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 0%
โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 6 สัปดาห์ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อต้นเดือนเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา