สังคมข่าวหุ้น
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,600 จุดไม่ได้ และถือเป็นแนวต้านสำคัญ แต่ก็ยังดีที่ว่า ไม่ได้หลุดแนวนับแรกคือ 1,590 จุด ทำให้วันนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะรีบาวด์ทางเทคนิคได้บ้าง ตลาดจะไซด์เวย์ หรือเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างแคบ
คาเฟอีน
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,600 จุดไม่ได้ และถือเป็นแนวต้านสำคัญ แต่ก็ยังดีที่ว่า ไม่ได้หลุดแนวนับแรกคือ 1,590 จุด ทำให้วันนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะรีบาวด์ทางเทคนิคได้บ้าง ตลาดจะไซด์เวย์ หรือเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างแคบ
*นักลงทุนสถาบัน (กองทุน) เมื่อวานนี้ขายออกมาอีกกว่า 3.3 พันล้านบาท เห็นว่าเป็นช่วงของการ “ปรับพอร์ต” ของกองทุนต่าง ๆ จะขายหุ้นตัวที่มีกำไรและราคาใกล้เต็มมูลค่าออกมา แล้วโยกไปให้หุ้นตัวอื่นที่ราคาลงมาต่ำกว่าพื้นฐานเช่น แบงก์กรุงเทพ BBL ที่ราคาหุ้นขึ้นมา 4 วันทำการติดต่อกันแล้ว รวมถึงหุ้น แบงก์กสิกรไทย KBANK ด้วย และจะถือเงินสดไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อรอเก็บหุ้นราคาถูกนั่นแหละ
*วันนี้ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF จะนำหน่วยลงทุนใหม่ 2,500 ล้านหน่วย (ราคา 9.00 บาท) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องจับตาดูว่า จะเกิดผลกระทบกับราคา JASIF ในตลาดมากน้อยแค่ไหน เพราะราคาปิดวานนี้อยู่ที่ 9.80 บาท แต่เข้าใจว่าหากราคาลงมาอีก น่าจะเห็นแรงซื้อกลับพอสมควร เพราะหุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 9% และหากราคาวันนี้ยังลงมาอีก นั่นหมายความว่า ผลตอบแทนอาจจะพุ่งขึ้นมากกว่า 10% ใครซื้อถือยาว ถือว่าคุ้มมาก ๆ ปันผลทุกไตรมาส
*TQM : บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น ราคาหุ้นทำนิวไฮต่อเนื่องนับจากเข้าตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2561 ล่าสุดวานนี้ราคาขึ้นไปสูงสุด 57.25 บาท ก่อนจะลงมาปิด 56.75 บาท ราคาหุ้นพุ่งแรงมาแล้ว 3 วันทำการติดต่อกัน รับข่าวทั้งจะเข้าคำนวณดัชนี SET100 มีผลรอบครึ่งปีแรก 2563 และเข้า MSCI Small Cap วันที่ 24 พ.ย.นี้ แต่วันนี้ หรือไม่ก็วันจันทร์ จะต้องระวังกันหน่อย เพราะน่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมา
*หุ้นบางจากฯ BCP ราคาไม่ยอมไปไหน ทำให้กรรมการของบริษัทมีมติซื้อหุ้นคืน เตรียมเงินไว้กว่า 2,100 ล้านบาท กำหนดซื้อหุ้นคืนประมาณ 5% ระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 6 ธ.ค. 2562 ไปจนถึง 5 มิ.ย. 2563 ส่วนวานนี้ราคาหุ้นปิด 23.30 บาท โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นดิ่งต่อเนื่องจากระดับ 31.50 บาท ซึ่งการซื้อหุ้นคืน น่าจะพอทำให้ราคาหุ้นผงกหัวได้บ้าง
*ส่งออกทรุดหนัก ดัชนีความเชื่อมั่นวูบ ทำจีดีพีขยายตัวต่ำกว่าเป้า ทำให้ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี ต้องนัดคลังจับเข่าคุยเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีกันซักหน่อย เห็นว่าจะใช้ “ยาแรง” หรือมาตรการที่น่าจะกระชากจีดีพีขึ้นมาได้ และไม่น่าจะใช่พวกแจกเงินกันแล้วล่ะ แต่อย่างที่เคยเขียนบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า มาตรการที่ออกมาหากจะให้เห็นผลจริง ๆ คือ เมื่อออกมาแล้วจะต้องร้อง “ว้าววว” นั่นแหละ ลูบหน้าปะจมูกไม่ได้
*บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือหุ้น DTAC ราคาร่วงลง 56.00 บาท เปลี่ยนแปลง –5.49% มูลค่าซื้อขาย 1,249 ล้านบาท เห็นว่าเป็นแรงขายทำกำไร และการปรับพอร์ตของ “พี่กอง” หรือกองทุนนั่นเอง หลังจากที่ราคาหุ้น DTAC หลุดแนวรับ 58 บาท และหุ้น DTAC เป็นหนึ่งในหุ้นมีการชอร์ตเซลล์ด้วย ในด้านสัญญาณทางเทคนิคมีโอกาสย่อตัวลง โดยมีแนวรับ 55-56 บาท หากหลุดจะมีแนวถัดไปที่ 54 บาท ส่วนแนวต้าน 58 บาท
*ธนาคารกสิกรไทย ฝากชี้แจงกรณีนางฮวย ศรีวิรัตน์ (อาม่าฮวย) ฟ้องคดีอาญาลูกสาว และพนักงานของธนาคารความผิดฐานลักทรัพย์ ทำเอกสารปลอม และใช้เอกสารปลอม เกี่ยวกับการเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของลูกค้า และฟ้องคดีแพ่งกับธนาคาร เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อปี 2557 และพนักงานดำเนินการไปตามความประสงค์ลูกค้าผ่านทางญาติสนิท ไม่มีเจตนาทุจริต และในชั้นนี้มีการฟ้องร้องเป็นคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งรายการที่เกิดในฝั่งธนาคาร ข้อมูลความสัมพันธ์ในทางครอบครัว และข้อมูลแวดล้อมอื่น ๆ โดยธนาคารพร้อมให้ข้อเท็จจริงและนำเสนอพยานหลักฐานต่อศาล และยินดีปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรม