WORK ไม่เวิร์กซะแล้ว..!?
ดูท่าจะไม่เวิร์กเหมือนชื่อซะแล้ว..! สำหรับบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK ที่งบไตรมาส 3/62 ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดกันไว้...
สำนักข่าวรัชดา
ดูท่าจะไม่เวิร์กเหมือนชื่อซะแล้ว..! สำหรับบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK ที่งบไตรมาส 3/62 ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดกันไว้…
ทั้ง ๆ ที่ต้นทุนค่าไลเซนส์และค่ามักซ์หายไป…แต่กำไรสุทธิเหลือแค่ 44 ล้านบาท ลดลง 98 ล้านบาท หรือ 69% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 142 ล้านบาท
นักลงทุนจึงพร้อมใจกันเทหุ้น WORK ชนิดที่ว่าไร้เยื่อใย..!
ก่อนหน้านี้หลายคนคาดหวังว่า ช่วงครึ่งปีหลัง WORK น่าจะกลับมาโตแบบติดปีกอีกครั้ง
หลังงัดกลยุทธ์ยกเครื่องผังรายการใหม่เอี่ยม ทำเอาเรตติ้งพุ่งกระฉูด…น่าจะดึงเม็ดเงินโฆษณาได้มากโข…
แต่สิ่งที่คิดกลับสวนทางกับความเป็นจริง เมื่อรายได้ของ WORK ในไตรมาส 3/62 เหลือแค่ 704 ล้านบาท ลดลง 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,007 ล้านบาท
เรียกว่า เป็นการลดลงทุกขา…ตั้งแต่รายได้จากธุรกิจทีวีดิจิทัลลดลง 27% อยู่ที่ 558 ล้านบาท จากการแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรม และอัตราค่าโฆษณาต่อนาทีที่ปรับลดลง ราว 8% เหลือ 68,000 บาทต่อนาที
ส่วนรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตอยู่ที่ 40 ล้านบาท ลดลง 76% และรายได้จากการจัดงานอีเวนต์ 35 ล้านบาท ลดลง 16%
รวม 9 เดือนปีนี้ WORK กำไรสุทธิเหลือแค่ 190 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 423 ล้านบาท
ขณะที่ไตรมาส 4/62 ยังไม่เห็นวี่แววการฟื้นตัว..! ส่งผลให้นักวิเคราะห์หลายสำนักเตรียมปรับประมาณการรายได้และกำไรปี 62 และปี 63 ลง…
ตัวการหลักที่ทำให้ WORK ตกอยู่ในสถานการณ์รายได้และกำไรทรุดต่อเนื่อง มาจากการแข่งขันที่สูง แม้ช่วงที่ผ่านมาช่องทีวีดิจิทัลหายไป 7 ช่อง แต่ด้วยจำนวนเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลงเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้สนามนี้กลายเป็นทะเลแดงเดือด
ประกอบกับพฤติกรรมการเสพสื่อของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป…คนดูทีวีน้อยลง แต่หันไปท่องโลกโซเชียลฯกันมากขึ้น เม็ดเงินโฆษณาจึงถูกโยกไปยังสื่อดิจิทัล เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ มากขึ้น
หรือเป็นเพราะรายการตระกูลไมค์ (ไมค์ทองคำ, ไมค์ทองคำเด็ก, ไมค์ปลดหนี้) และรายการ The Mask Singer ที่เคยเป็นรายการทำเงิน เรียกเรตติ้งให้กับช่อง ไม่มีพักเบรก จัดซีซั่นต่อเนื่องกันเกินไป จนทำให้คนดูเบื่อ กระแสความนิยมจึงหดหาย…ไม่ปังเหมือนก่อน
ก็ไม่รู้ว่า “เสี่ยตา-ปัญญา นิรันดร์กุล” ในฐานะเจ้าพ่อเกมโชว์จะแก้เกมนี้อย่างไร..?
จะงัดกลยุทธ์ใดมาสู้..! เพื่อเรียกเรตติ้งและเม็ดเงินโฆษณา
ที่สำคัญจะได้กู้วิกฤตศรัทธาของนักลงทุนที่ก่อนหน้านี้พากันเทขายหุ้น WORK แบบไม่ยั้งมือ…
ส่งผลให้ราคาดิ่งไปนอนอยู่ก้นเหว ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 7 ปี 8 เดือน โดยรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาปรับลดลงไป 22.46% และรอบ 3 เดือน ราคาลดลง 35.56%
ถ้าเสี่ยตายังปล่อยให้สถานการณ์ WORK เป็นอย่างนี้ คงไม่ดีแน่ จากที่เคยทำรายการเกมโชว์สร้าง “เสียงหัวเราะ” ให้กับคนดู…จะกลายมาเป็นสร้าง “คราบน้ำตา” ให้กับนักลงทุนแทน
เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน…
…อิ อิ อิ…