มาดามแป้งลูบคมตลาดทุน

ลูบคมตลาดทุน: ธนะชัย ณ นคร

 

วันนี้มีเหตุให้ต้องมาเขียนแทนคุณชาญชัย สงวนวงศ์ ครับ

ส่วนที่พาดหัวคอลัมน์ “มาดามแป้ง” ก็หมายถึงคุณนวลพรรณ ล่ำซำ นั่นแหละครับ

ชั่วโมงนี้ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเธอจริงๆ

มาดามแป้ง กับตลาดหุ้นไทยนั้น ทราบกันดีว่า ก่อนหน้านี้เธอคือนักลงทุนรายใหญ่คนหนึ่ง ส่วนสถานะปัจจุบันนั้น ผมไม่ทราบจริงๆ เพราะช่วงหลังไม่ค่อยได้เจอเลย

หรือเหมือนกับจะเพลาๆ มือไปแล้วนะ

หรือไม่ก็อาจหันไปลงทุนแบบระยะยาว นักลงทุนแนว VI หรือเปล่า ผมคาดเดานะ

ตำแหน่งหลักๆ ที่คุณนวลพรรณ หรือมาดามแป้ง ทำงานอยู่ก็คือ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เมืองไทยประกันภัย (MTI)

ว่ากันว่า แม้จะมีทั้งงานราษฎร์ งานหลวง เยอะไปหมด แต่เธอก็ยังเข้าทำงานที่บริษัทแห่งนี้ทุกวัน และใน 1 อาทิตย์ก็จะมีอยู่ 1 วันที่จะเข้ามาประจำตลอดวัน

ไม่นาเชื่อเลยใช่ไหมว่าเธอมีการบริหารเวลาอย่างไร

ในไตรมาส 1/58 หุ้น MTI มีกำไรสุทธิ 237 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/57

หากจำกันได้ MTI นั้น เคยประสบกับปัญหาในช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 กระทั่งต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนจำนวนมาก และทำให้ผลกำไรสุทธิในปี 2555 ขาดทุน

แต่พอมาปี 2556 กลับพลิกมากำไรสุทธิได้

ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น MTI แทบไม่มีปัญหาต้องเพิ่มทุนอะไร เพราะสไตล์การบริหารในธุรกิจการเงินของตระกูล “ล่ำซำ” นั้นค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟครับ

นั่นคือ “ตั้งการ์ด” แน่นไว้ก่อน

กำไรที่ได้มา จะมีการกันสำรองเพื่อให้เงินกองทุนแข็งปึ้ก

เวลามีปัญหาด้านเศรษฐกิจ หรือวิกฤต เช่น น้ำท่วม แล้วจะมีผลต่อบริษัท จะได้ไม่ต้องมาแก้ปัญหาเอาภายหลัง

ในธุรกิจประกันภัย หรือวินาศภัยนั้น กำไรจะเกิดขึ้นจากรายได้จากการรับประกันภัย และอีกส่วนหนึ่งมาจากรายได้จากการลงทุน

ที่ผ่านมา หุ้น MTI สามารถทำรายได้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งสองส่วน

ในส่วนของการลงทุนนั้น ที่จะดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการวางแผนการลงทุนทั้งในตลาดตราสารหนี้ และตราสารทุน(ตลาดหุ้น) ที่สร้างผลตอบแทนได้ดี

มาดามแป้ง เริ่มเข้าตลาดหุ้นในช่วงปี 2539

หลังจากนั้น เธอก็เป็นนักลงทุนรายใหญ่ของตลาดหุ้นในเวลาต่อมา และมักได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโออยู่หลายครั้ง

เธอมีสไตล์การลงทุนที่เข้าถึงแหล่งข้อมูลในเชิงลึก ติดตามข่าวสาร ค้นหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ดูบทวิเคราะห์หุ้นของแต่ละโบรกเกอร์ที่เผยแพร่ออกมา ซึ่งเป็นหนทางที่ทำให้นักลงทุน “ชนะตลาด”

“นักลงทุนไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อหุ้นในช่วงที่ถูกที่สุด และไม่จำเป็นที่จะต้องขายในช่วงที่ราคาขึ้นไปแพงที่สุด เพราะขึ้นอยู่กับเทคนิคการลงทุนของแต่ละคน”

ข้อความนี้มาดามแป้งเคยกล่าวไว้ครับ

ส่วนหุ้นที่จะมีการเลือกเข้าพอร์ตนั้น ประกอบด้วย 1.จะต้องลงทุนในหุ้นที่กำลังเป็นเทรนด์ของอุตสาหกรรมนั้นๆ 2.เลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี 3.มองกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 4.ต้องมีสภาพคล่อง 5.เป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันและต่างชาติให้ความสนใจ และ 6.ผู้บริหารบริษัทต้องมีหลักธรรมาภิบาล

ผมเข้าใจว่า สไตล์การบริหารพอร์ตของ MTI ก็น่าจะใกล้เคียงกับหลักการนี้

หรืออาจมีแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ไม่น่ามาก

ผ่านมาถึงวันนี้คนในวงการหุ้นพูดถึงมาดามแป้งน้อยลงในเรื่องของหุ้น

และกลับไปพูดเรื่องกีฬาที่เธอเป็นผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ที่ไปโชว์ผลงานในฟุตบอลโลก 2015 มาอย่างงดงาม และเป็นประวัติศาสตร์

นี่ยังไม่รวมเรื่องการเข้าไปบริหารฟุตบอลทีมการท่าเรือ

ล่าสุด เดินเข้าไปห้ามแฟนบอลระหว่างทีมการท่าเรือและชัยนาท ที่จะมีเรื่องกัน ผลคือ ทั้งสองฝ่ายหยุดทันที

ในช่วงการบริหารพอร์ตหุ้นนั้น มาดามแป้งมีสไตล์ถึงลูกถึงคน จริงจัง

การบริหารธุรกิจก็เช่นกัน

รวมถึงในวงการกีฬาด้วย