“บิ๊กตู่” วอนภาครัฐ-เอกชน ผนึกกำลังขับเคลื่อนธุรกิจ ดึงความเชื่อมั่น นลท.ต่างชาติ
"บิ๊กตู่" วอนภาครัฐ-เอกชน ผนึกกำลังขับเคลื่อนธุรกิจ ดึงความเชื่อมั่น นลท.ต่างชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดตัวเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนประเทศไทย (Thailand Responsible Business Network : TRBN) ว่า รัฐบาลต้องอาศัยพลังภาคเอกชนมาร่วมสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในรูปแบบคู่ขนานกับการบริหารงานและการอำนวยความสะดวกจากภาครัฐ เนื่องจากเห็นว่าโลกและสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ทั้งการเดินหน้าปฏิวัติอุตสาหกรรม และเทคโนโลยี 5G ประกอบกับในปี 2564 นอกจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มถดถอยแล้วไทยยังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบด้วย
ดังนั้น ไทยในฐานะประเทศเกษตรกรรมจึงต้องผนึกกำลังกันทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมกันปรับตัวให้สอดคล้องกับภาวะของโลกให้ประเทศมีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศในการมาลงทุนในไทย ตลอดจนสร้างรายได้ที่มั่นคง และแก้ปัญหาหนี้สินต่างๆ ให้ได้ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นอกจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ฝากทุกคนช่วยกันทำให้ประเทศไทยเกิดความสงบสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับต่างชาติ อะไรที่ไม่ใช่ปัญหาหลักก็อยากให้มองข้ามไปบ้าง เพราะวันนี้ปัญหาเศรษฐกิจโลกคือปัญหาที่สำคัญที่สุด
ขณะที่การแก้ปัญหาหนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาร่วมกันด้วยการสร้างเครือข่ายให้ภาคเอกชน นำไปสู่ความยั่งยืนของคนในประเทศต่อไปตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งไทยเป็นผู้นำเรื่องนี้ จึงอยากให้ทบทวนว่าเราได้ทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศเราเองสูงสุดแค่ไหน เพราะประเทศอื่นนำปรัชญานี้ไปใช้อย่างได้ผลกันหลายประเทศแล้ว
สำหรับแนวทางการพัฒนาที่ยังยืน ประเทศไทยมีทรัพยากรที่มีความพร้อมแต่ปัจจุบันเริ่มพบปัญหาเรื่องทรัพยากร ต้องช่วยกันสร้างและรักษาสิ่งที่ดีเอาไว้ ไทยถือว่าโชคดีที่พบภัยพิบัติไม่มากเท่ากับประเทศอื่น จึงต้องช่วยกันพัฒนารักษาทรัพยากรที่มีเอาไว้และใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายที่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนในการประกอบธุรกิจ โดยมีความเคารพ คุ้มครอง และเยียวยา ซึ่งไม่เฉพาะกับแรงงานเท่านั้น แต่รวมถึงสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งนโยบายนี้เป็นต้นแบบกรอบการดำเนินธุรกิจให้กับประเทศอาเซียนด้วย
ด้าน นางพิมพรรณ ดิศกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนประเทศไทย หรือ TRBN กล่าวว่า TRBN มีพันธกิจหลัก ดังนี้ 1. ส่งเสริมให้เกิดความตระหนักความรู้ ความเข้าใจที่ตรงกัน และการแลกเปลี่ยนความคิดที่จะนำไปสู่การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 2. เชื่อมโยงทรัพยากร องค์ความรู้ เทคโนโลยี สนับสนุนงานวิจัย นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และ 3. เป็นพื้นที่กลางของความร่วมมือของภาคธุรกิจกับภาคส่วนอื่นๆ เพื่อการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อส่วนรวม
ขณะที่เป้าหมายในการดำเนินงานของ TRBN มุ่งไปที่ 3 ประเด็นหลัก โดยเป้าหมายแรกเป็นเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ(Low-carbon Emission) เน้นเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change) เป้าหมายที่สอง คือ การเปิดโอกาสอย่างทั่วถึง(Inclusivity) เน้นเรื่องการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่า (Value-chain Management) และสิทธิมนุษยชนและการพัฒนามนุษย์(Human Rights & Human Development) ส่วนเป้าหมายสุดท้าย เป็นเรื่องการมีธรรมาภิบาล(Good Governance) เน้นศีลธรรมความซื่อสัตย์ทางธุรกิจ(Business Integrity) รวมถึงการลงทุนและการบริโภคอย่างยั่งยืน(Sustainable Investment & Consumption)