สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ธ.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ธ.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า ซึ่งการส่งสัญญาณดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่า การเจรจาการค้าอาจยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ ที่ 27,502.81 จุด ร่วงลง 280.23 จุด หรือ -1.01% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,093.20 จุด ลดลง 20.67 จุด หรือ -0.66% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,520.64 จุด ลดลง 47.34 จุด หรือ -0.55%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) โดยถูกกดดันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐส่งสัญญาณว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.63% ปิดที่ 398.48 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,727.22 จุด ลดลง 59.52 จุด หรือ -1.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,158.76 จุด ลดลง 127.18 จุด หรือ -1.75% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,989.29 จุด เพิ่มขึ้น 24.61 จุด หรือ +0.19%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน โดยตลาดถูกกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐส่งสัญญาณว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,158.76 จุด ร่วง 127.18 จุด หรือ -1.75%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) ขานรับความหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดการผลิตน้ำมันในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ในการประชุมสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 56.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 60.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐและความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจยืดเยื้อถึงปลายปีหน้า ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 15.20 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 1,484.40ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 28.2 เซนต์ หรือ 1.66% ปิดที่ 17.248 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 11.90 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 911.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1824.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.57 เยน จากระดับ 108.96 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9867 ฟรังก์ จากระดับ 0.9914 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3300 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3297 ดอลลาร์สหรัฐ

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1081 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1076 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2992 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2942 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6841 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6820 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button