งูเห่าขู่พรรคร่วม ?
กระแสขู่ปรับ ครม. เอา “งูเห่า” เข้าร่วมรัฐบาล เป็นอะไรที่น่าขันเมื่อคำนึงถึงความเป็นไปได้ พรรคฝ่ายค้านที่มีโอกาสยกพรรคมาร่วมรัฐบาล ก็มีแค่เศรษฐกิจใหม่ ซึ่งมี ส.ส. 6 คน ต่อให้มาทั้งพรรค ไม่แตกกัน ก็ทดแทนประชาธิปัตย์หรือภูมิใจไทยที่มี 53 และ 51 คนไม่ได้
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
กระแสขู่ปรับ ครม. เอา “งูเห่า” เข้าร่วมรัฐบาล เป็นอะไรที่น่าขันเมื่อคำนึงถึงความเป็นไปได้ พรรคฝ่ายค้านที่มีโอกาสยกพรรคมาร่วมรัฐบาล ก็มีแค่เศรษฐกิจใหม่ ซึ่งมี ส.ส. 6 คน ต่อให้มาทั้งพรรค ไม่แตกกัน ก็ทดแทนประชาธิปัตย์หรือภูมิใจไทยที่มี 53 และ 51 คนไม่ได้
หรือต่อให้เชื่อว่ามีงูเห่าในมือ 30-40 คน ก็ยังไม่ได้ย้ายสังกัด ตราบใดที่พรรคต้นสังกัดยังไม่ขับออก ก็ย้ายไม่ได้ แล้วจะเป็นการเมืองแบบไหน รัฐบาลที่ลงมติแต่ละครั้งต้องพึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้านเป็นงูเห่า ทรยศสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชน จะอ้างตนเป็นรัฐบาลที่มีคุณธรรมจริยธรรมได้อย่างไร
แต่คำขู่นั้นอาจสะท้อนว่าอำนาจต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาลมีน้อยลง ปชป. ภท. ไม่ได้มีราคาแพงเหมือนเมื่อครั้งตั้งรัฐบาล ที่สามารถต่อรองเอากระทรวงสำคัญ เกษตร พาณิชย์ คมนาคม สถานการณ์วันนั้น ภูมิใจไทยยังสามารถแทงกั๊ก ร่วมมือกับ 7 พรรคฝ่ายค้าน ประชาธิปัตย์ยิ่งต้นทุนสูง เพราะหาเสียงเลือกตั้ง “ไม่เอาประยุทธ์” การร่วมรัฐบาลทำให้อดีตหัวหน้าพรรคต้องลาออกจาก ส.ส. ต่อแพงหน่อยก็ต้องให้ ปชป.จึงได้ทั้งประธานสภา เกษตร พาณิชย์ ประกันราคาข้าว ยาง ปาล์ม กระทั่งตั้งเงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญไว้ในนโยบายเร่งด่วน
แต่มาถึงวันนี้ สมมติเขย่าเก้าอี้กันใหม่ ปชป. ภท. กล้าถอนตัวจากรัฐบาลไหม ถอนแล้วไปไหน เป็นฝ่ายค้านอิสระ ? มีแต่จะโดนโห่
สมมตินะ สมมติ ถ้าใช้ lawfare ยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามที่คาดกัน ส.ส.บางคนที่เป็นกรรมการบริหารพรรคอาจถูกตัดสิทธิ ส.ส.บางคนที่คุมไม่ได้อาจย้ายไปอยู่พลังประชารัฐ แล้วรอให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณวาระ 3 ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ซึ่งภูมิใจไทยก็อาจอาการหนัก)
ถึงตอนนั้นถ้าปรับ ครม. ยึดบางกระทรวงกลับ ปชป.ภท.จะกล้าหือไหม
ที่เป็นเช่นนี้เพราะโครงสร้างที่วางไว้ เสาค้ำรัฐบาลไม่ได้อยู่ที่เสียง ส.ส.ในสภา ไม่เพียงมี 244 ส.ว. 6 ผบ.เหล่าทัพ ที่พร้อมจะโหวตประยุทธ์กลับมาทุกเมื่อ เสาค้ำอำนาจคือโครงสร้างตามรัฐธรรมนูญ 2560 อำนาจกองทัพ รัฐราชการ องค์กรอิสระ องค์กรกฎหมาย ที่ฝังรากไว้ 5 ปีแล้วเคลื่อนย้ายมาอยู่ในรัฐธรรมนูญ
ไม่มีใครโค่นประยุทธ์ได้ ต่อให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว เพียงแต่ตอนเริ่มพิธีกรรม จำเป็นต้องอาศัย ส.ส.โหวตครบ 500 หลังจากนั้นเมื่อปรับกลไกเข้าที่ อำนาจต่อรองของพรรคร่วมก็น้อยลง ๆ
ไม่ต้องพูดถึงพรรคเล็กที่ทำเป็นตีรวน เป็นฝ่ายค้านอิสระ รวมตัวตั้งกลุ่ม ฯลฯ เป็นข่าวหลอกคนแล้วก็เงียบหายไป ต่อให้ประชาธิปัตย์ ซึ่งอยากชิงฐานเสียงคืนจากพลังประชารัฐใจจะขาด สมมติจุรินทร์ถูกปรับออก ประกาศถอนตัว ก็อาจเหลือ ส.ส.ยืนข้างไม่ถึงสิบคน ที่เหลือยังอยากเป็นรัฐบาลจนครบสี่ปี
เพราะภายใต้โครงสร้างนี้ ที่การเมืองถอยหลัง ย้อนยุคระบบอุปถัมภ์ ส.ส.จะรักษาพื้นที่ ก็ต้องหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ ของบขอโครงการจากรัฐมนตรี ไปอวดประชาชนว่าช่วยเหลือได้ จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านอยากเป็นงูเห่าไปตาม ๆ กัน
โครงสร้างที่บล็อกไว้ให้ประยุทธ์อยู่ยาว ทำให้นักการเมืองที่ต้องการรักษาฐานเสียง กลุ่มคนที่ต้องการรักษาอำนาจผลประโยชน์ จำเป็นต้องวิ่งเข้าหาประยุทธ์และช่วยค้ำประยุทธ์
ดังนั้น ไม่ว่ารัฐบาลประยุทธ์จะย่ำแย่อย่างไร เศรษฐกิจปากท้องกองสุมเพียงไร การเมืองไม่ชอบธรรม ไม่ยุติธรรม ต่ำทราม สามานย์ เพียงไร ประยุทธ์ก็ไม่ล้ม มีแต่คนอื่นถูกบูชายัญ
ระบอบที่ย่ำแย่ แต่ไม่ล้ม ไม่ต้องแยแสใคร ประชาชนย่ำแย่แค่ไหนก็อยู่ได้ นั่นคืออนาคตที่วาดไว้ 4 ปี