“สารัชถ์” ผงาดขึ้นเบอร์ 1 เศรษฐีหุ้นไทยปี 62 เบียด “หมอเสริฐ” แชมป์เก่า 6 สมัยตกอันดับ!

"สารัชถ์" ผงาดขึ้นเบอร์ 1 เศรษฐีหุ้นไทยปี 62 เบียด "หมอเสริฐ" แชมป์เก่า 6 สมัยตกอันดับ!


วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2562

สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยปี 2562 ใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2562 ปรากฏว่า ทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยปี 2562 ได้ต้อนรับแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนใหม่ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF โดยนายสารัชถ์ถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 120,960 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 63,315 ล้านบาท หรือ 109.84% ซึ่งหุ้นที่นายสารัชถ์ ถือครองมีเพียง 1 บริษัทคือ GULF โดยถือหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 35.44%

ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปีที่ GULF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้น GULF ได้ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง จากราคาเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่ 45 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 76.25 บาท ณ 30 กันยายน 2561 และทะยานขึ้นมาอยู่ที่ 160 บาท ณ 30 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ใช้คำนวณมูลค่าความมั่งคั่งเศรษฐีหุ้นไทยปี 2562 โดยราคาปรับเพิ่มขึ้นถึง 83.75 บาท หรือ 109.84%  ส่งผลให้นายสารัชถ์ผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ GULF ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2562 หลังจากเข้ามาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว

เศรษฐีหุ้นอันดับ 2  ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 66,110.64 ล้านบาท รวยลดลง 11,018.68 ล้านบาท หรือ 14.29% ความมั่งคั่งของหมอเสริฐที่ลดลงในปีนี้ เนื่องมาจากหุ้นที่หมอเสริฐถือครองทั้ง 3 บริษัท  คือ BDMS, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA และบริษัท โรงพยาบาลนนทเวช จำกัด (มหาชน) หรือ NTV ราคาตกลงจากปีที่แล้ว  โดยหมอเสริฐเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 6 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี  2556- 2561

เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักรโอสถสภาก้าวจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 48,613.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,648.61 ล้านบาท หรือ 52.08%  นอกจากพอร์ตหุ้นที่ลงทุนมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ปีนี้นิติยังถือครองหุ้น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ซึ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 โดยนิติเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ในสัดส่วน 16.28%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 4  ได้แก่  นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ขยับจากอันดับ 9 เมื่อปีที่แล้ว โดยหุ้นที่คีรีถือครองรวมมูลค่าทั้งสิ้น 43,080.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,708.42 ล้านบาท หรือ 51.84% เนื่องจากราคาหุ้น BTS และ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ปรับตัวสูงขึ้นมากจากปีที่แล้ว

เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หล่นจากอันดับ 3 เมื่อปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 42,084.25 ล้านบาท ลดลง 125.16 ล้านบาท หรือ 0.30%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 ได้แก่ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการกลุ่มบริษัท ทีโอเอ ทายาทคนโตของอาณาจักรสี TOA โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 41,055.30 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 34,162.15 ล้านบาท หรือ 495.60% จากการเข้าลงทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยอ้อม (Backdoor Listing) ใน บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ SMM เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562  ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เพื่อทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยวนรัชต์เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ใน STARK ที่ 73.37%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 และ 8 ได้แก่ สองเศรษฐีหุ้นเจ้าของ บริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC หรือชื่อเดิมคือ เมืองไทยลิสซิ่ง นางดาวนภา เพชรอำไพ ร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 7 จากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้น MTC  มูลค่า 41,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,300 ล้านบาท หรือ 18.13% ส่วนนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ร่วงจากอันดับ 4 ลงมาอยู่อันดับ 8 โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 40,841.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,448.98 ล้านบาท หรือ 15.40%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ นายพิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ถูกเบียดลงมาจากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้นมูลค่ารวม 32,596.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,677.46 ล้านบาท หรือ 12.72%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ นายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ร่วงจากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 27,469.19 ล้านบาท ลดลง 5,431.16 ล้านบาท หรือ 16.51%

ด้าน เจ้าสัวเจริญ และ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยในปีนี้เป็นครั้งแรก โดยอยู่ในอันดับ 23  มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองคนละ 10,330.57 ล้านบาท จากการนำ บริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEG ซึ่งเป็น Holding Company ของกลุ่มสิริวัฒนภักดีที่ลงทุนในธุรกิจประกัน “อาคเนย์” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2562  โดยเจ้าสัวเจริญและคุณหญิงวรรณาถือหุ้น SEG สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วนเท่ากันที่ 37.38% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ปรากฏชื่ออย่างเป็นทางการในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

สำหรับทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยในปี 2563 น่าจะได้เห็นความมั่งคั่งของเจ้าสัวเจริญ และคุณหญิงวรรณา เพิ่มขึ้นอีกมหาศาล จากการนำ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ซึ่งเป็น Holding Company ที่ถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ “ทีซีซี กรุ๊ป” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562  ด้วยมูลค่า IPO รวม 185,742 ล้านบาท สูงสุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย ซึ่งเจ้าสัวเจริญถือหุ้นเป็นอันดับ 2 ในสัดส่วน 25.12% และคุณหญิงวรรณาถือหุ้นอันดับ 3 ในสัดส่วน 19.77%

Back to top button