ด่วน! ศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษคดีเสือดำ สั่งจำคุก “เปรมชัย” 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา

ด่วน! ศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษคดีเสือดำ สั่งจำคุก "เปรมชัย" 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ธ.ค.) ศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 7 ในคดีที่อัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD, นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ, นางนที เรียมแสน แม่ครัว และ นายธานี ทุมมาศ นายพราน

จากกรณี เมื่อวันที่ 4-6 ก.พ. 61 นายเปรมชัยกับพวก เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก

โดยศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อ่านคำสั่งชั้นอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น แต่เพิ่มโทษ นายเปรมชัย จากจำคุก 16 เดือน เป็น 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา ใน 3 ข้อหา ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ โดยหลุดข้อหาครอบครองซากเสือดำ

ส่วน นายยงค์ โดดเครือ จากเดิมจำคุก 13 เดือน เป็น จำคุก 2 ปี 17 เดือน, นางนที เรียมแสน แม่ครัว จากเดิม จำคุก 4 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 10,000 บาท เป็น จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี

ส่วน นายธานี ทุมมาศ นายพราน ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นคนยิงเสือดำ จากจำคุก 2 ปี 17 เดือน เป็นจำคุก 2 ปี 21 เดือน นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 4 ก.พ. 61 ซึ่งขณะนี้ทนายอยู่ระหว่างการยื่นประกันตัว

สำหรับ “คดีล่าเสือดำ” ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 62 สั่งจำคุกนายเปรมชัย 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา, นายยงค์ ศาลสั่งจำคุก 13 เดือน, นางนที ศาลสั่งจำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอรอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี และ นายธานี ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 17 เดือน พร้อมกันนี้ ศาลสั่งให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหาย 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5

ทั้งนี้ สาระสำคัญที่อัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรียื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ในส่วนของนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 อัยการอุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษฐานเป็นตัวการให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า (เสือดำ) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยในศาลชั้นต้น ศาลจังหวัดทองผาภูมิวินิจฉัยว่าเป็นผู้สนับสนุน อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันเก็บหาของป่าภายในเขตป่าสงวน อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ซึ่งข้อหานี้ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษายกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำและซากไก่ป่า (ไก่ฟ้าหลังเทา) เป็นการกระทำหลายกรรม ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่า เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน

Back to top button