TSF เตรียมคัมแบ็ก?

อาจารย์ยังไม่เห็นแผนธุรกิจที่จะทำให้หุ้นตัวนี้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จึงรู้สึกไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ หากจะบอกให้นักลงทุนกระโจนเข้าใส่หุ้นตัวนี้อย่างเต็มตัว ยกเว้นนักลงทุนบางรายรายมองว่า ปีนี้หุ้น TSF จะเทิร์นอะราวด์ทางธุรกิจได้อย่างเต็มตัว ก็สามารถลงทุนได้ตามกำลังทรัพย์ที่ตัวเองมีอยู่นะครับ


สภาแมงเม่า: ดร.สมชาย

 

คุณปรีชา จากลาดพร้าว 71 กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น TSF หรือ บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) ในช่วงนี้มีอะไรหลายอย่างที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นแบบแปลกๆ หลังจากราคาหุ้นกระชากขึ้นแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน ต่อจากนั้นมีการพูดถึงสถานการณ์ของบริษัทจะดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ตัวผมยังไม่ค่อยแน่ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีหลายประเด็นที่ยังค้างคาในใจ

โดยเฉพาะตัวเลขผลการดำเนินงานที่มีผลขาดทุนเรื้อรังมานานหลายปี ถือเป็นจุดบอดที่ยากจะทำให้หุ้นตัวนี้ทะยานขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับการแข่งขันของธุรกิจสื่อโฆษณาถูกผูกขาดจากเจ้าใหญ่ไม่กี่ราย จึงอยากจะรู้แผนการที่จะทำให้หุ้นตัวนี้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง

 

ถ้าวิเคราะห์ความน่าสนใจของหุ้นโดยอิงจากสภาพการลงทุนในตลาดหุ้นจะเห็นว่าหุ้น TSF หรือ บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) ไม่ใช่ทางเลือกที่น่าสนใจแม้แต่นิดเดียว เพราะเป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันไม่ได้ให้ความสนใจ และนักลงทุนรายใหญ่ก็มองข้ามกันไปหมด สภาพของหุ้นถึงดูแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งตัวอาจารย์ยังมองไม่เห็นโอกาสที่หุ้นตัวนี้จะพลิกฟื้นขึ้นมาดีดังเดิมนะครับ

เนื่องจากข้อมูลที่เป็นองค์ประกอบหลายด้านไม่เอื้อให้นักลงทุนเข้าลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องของผลประกอบการที่ขาดทุนเรื้อรัง และมูลค่าทางบัญชีของหุ้นเหลือแค่ 0.19 บาท ล้วนเป็นเครื่องที่บ่งชี้ว่า ไม่ควรเข้ามายุ่งกับหุ้นที่อยู่ในข่ายตะวันตกดิน เพราะมีโอกาสเจ็บตัวค่อนข้างสูง

 

. ปี 54 ปี 55 ปี 56 ปี 57 ไตรมาส 1 ปี 58
รายได้รวม  236.97 264.28 462.81 368.78 106.49
กำไรสุทธิ  14.95 -65.42 -320.24 -483.21 -95.22
กำไรต่อหุ้น (บาท)  0.01 -0.05 -0.17 -0.16 -0.02

 

ที่สำคัญคือ อาจารย์ยังไม่เห็นแผนธุรกิจที่จะทำให้หุ้นตัวนี้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จึงรู้สึกไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ หากจะบอกให้นักลงทุนกระโจนเข้าใส่หุ้นตัวนี้อย่างเต็มตัว ยกเว้นนักลงทุนบางรายรายมองว่า ปีนี้หุ้น TSF จะเทิร์นอะราวด์ทางธุรกิจได้อย่างเต็มตัว ก็สามารถลงทุนได้ตามกำลังทรัพย์ที่ตัวเองมีอยู่นะครับ

สรุปสถานการณ์ตรงนี้คือ นักลงทุนเชื่อปัจจัยพื้นฐานที่เห็นในเวลานี้ หรือมองเรื่องของความเชื่อที่ตนเองตั้งธงไว้แต่แรก ประกอบกับในแง่ของทฤษฎีมีการกล่าวกันไว้ว่า เมื่อธุรกิจเดินมาถึงจุดต่ำสุด หลังจากนั้นจะฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ และจะกลับมาเฟื่องฟูสุดขีดอีกครั้ง

ส่วนกรณีของ TSF จะเป็นเหมือนดังที่คาดหวังแค่ไหน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เรื่องทั้งหมดเองครับ

 

รูปภาพประกอบจาก : ASPEN

Back to top button