กำไรหุ้นแบงก์หืดจับ!

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังอยู่ในภาวะอ่อนตัว และฟื้นตัวช้ากว่าคาด ทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ซบเซา ตามการระมัดระวังการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและหนี้สินที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับภาคการส่งออกที่ยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัว ส่งผลให้บรรยากาศทางด้านผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/58 รวมถึงผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2558 ของหุ้นธนาคารพาณิชย์ทั้ง 11 แห่ง


ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังอยู่ในภาวะอ่อนตัว และฟื้นตัวช้ากว่าคาด ทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ซบเซา ตามการระมัดระวังการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและหนี้สินที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับภาคการส่งออกที่ยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัว ส่งผลให้บรรยากาศทางด้านผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/58 รวมถึงผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2558  ของหุ้นธนาคารพาณิชย์ทั้ง 11 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยโดยรวมแล้วไม่สดใสเท่าที่ควรดังที่ปรากฏ

 

ผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ตามข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯที่มีการประกาศออกมาครบแล้วทั้ง 11 แห่ง พบว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 มีกำไรรวมกัน 51,573.13 ล้านบาท ลบไป 912.16 ล้านบาท หรือลบไป 1.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 52,485.29 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกมีกำไรรวม 104,072.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 741.16 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2557 อยู่ที่ 103,331.21 ล้านบาท    

ตัวเลขข้างต้นของกลุ่มธนาคาร แม้ว่าออกมาหืดจับ แต่มีการซ่อนข้อเท็จจริงเอาไว้บางส่วนที่น่าสนใจ เนื่องจากธนาคารบางแห่งมีกำไรเพิ่มขึ้น ส่วนบางแห่งปรับตัวลดลง โดยรายละเอียดเบื้องต้นมีดังนี้     

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 13,217.70 ล้านบาท ลบไป 1,505.44 ล้านบาท หรือลบไป 10.23% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 14,723.14 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 26,369.40 ล้านบาท ลบไป 1,482.46 ล้านบาท หรือลบไป 5.33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 27,851.86 ล้านบาท

 – ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 11,478.76 ล้านบาท ลบไป 252.85 ล้านบาท หรือลบไป 2.16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 11,731.61 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 23,880.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 209.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.89% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 23,670.44 ล้านบาท

– ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 8,035.33 ล้านบาท ลบไป 993.89 ล้านบาท หรือลบไป 11.01% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 9,029.22 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 17,442.23 ล้านบาท ลบไป 552.11 ล้านบาท หรือลบไป 3.07% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 17,994.34 ล้านบาท เหตุจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าส่งผลให้สินเชื่อของธนาคารขยายตัวเล็กน้อย

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8,448.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 829.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.89% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 7,619.38 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 16,377.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 460.76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.90% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 15,916.99 ล้านบาท

-ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือBAY  ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4,349.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 888.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.69% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,460.39 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8,675.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,949.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.29% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 6,726.65ล้านบาท

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือTMB  ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 2,259.53 ล้านบาท ลบไป 315.78 ล้านบาท หรือลบไป 12.27% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,575.31 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 3,897.18 ล้านบาท ลบไป 280.03 ล้านบาท หรือลบไป 6.71% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,177.21ล้านบาท

– บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,392.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.75% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,235.30 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,724.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.48% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,558.64 ล้านบาท

-บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,003.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.23% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 991.78 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,196.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 269.94 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.02% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,926.48 ล้านบาท

-ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 749.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.92 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.25% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 628.24 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,413.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.65% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,350.57 ล้านบาท

-บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHBANK ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 420.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.09% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 306.46 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 748.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 40.48% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 532.70 ล้านบาท

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 217.56 ล้านบาท ลบไป  33.10 ล้านบาท หรือลบไป 17.95% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 184.46 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 348.16 ล้านบาท ลบไป 277.17 ล้านบาท หรือลบไป 44.33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 625.33 ล้านบาท

สิ่งที่ต้องพิจารณากันก็คือกำไรจากการดำเนินงาน วัดความสามารถของผู้บริหารธนาคารได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะกำไรจากรายได้จากดอกเบี้ยซึ่งเป็นกำไรแบบจารีต หรือกำไรจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในขณะที่กำไรจากการขายทรัพย์สินหรือจากการปรับงบทางการเงิน เป็นกำไรชั่วคราวที่เกิดจากความสามารถทางเทคนิคที่กินระยะเวลาชั่วขณะ

ความสามารถของผู้บริหารธนาคารคนไหน วัดได้ไม่ยาก ดูได้จากตัวเลขที่ฟ้องชัด ไม่ใช่แค่ราคาคุย!!

 

20150725_1

 

20150725_2

Back to top button