สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 ธ.ค. 2562

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) โดยทั้งดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและบริษัทผลิตชิป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนพ.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,235.89 จุด เพิ่มขึ้น 100.51 จุด หรือ +0.36% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,191.45 จุด เพิ่มขึ้น 22.65 จุด หรือ +0.71% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,814.23 จุด เพิ่มขึ้น 79.35 จุด หรือ +0.91%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยยังคงได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก และจากชัยชนะของพรรคอนุรักษ์นิยมในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.39% ปิดที่ 417.75 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,991.66 จุด เพิ่มขึ้น 72.64 จุด หรือ +1.23%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,407.66 จุด เพิ่มขึ้น 124.94 จุด หรือ +0.94% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,519.05 จุด เพิ่มขึ้น 165.61 จุด หรือ +2.25%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่อังกฤษจะสามารถแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังพรรคอนุรักษ์นิยมของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีชนะการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,519.05 จุด เพิ่มขึ้น 165.61 จุด หรือ +2.25%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนยังช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 60.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 65.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นขานรับข่าวสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาด

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,480.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 10.1 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 17.113 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 931.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 72.00 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 1,963.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9825 ฟรังก์ จากระดับ 0.9838 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3155 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3186 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 109.59 เยน จากระดับ 109.31 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1147 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1119 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3350 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3338 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6890 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6868 ดอลลาร์สหรัฐ