โยนหินถามทาง

*ประเด็นข่าวสัปดาห์นี้มีเรื่องราวของการแก่งแย่งแข่งขันมากมายหลายบริษัท ซึ่งมีทั้งการวัดกำลังภายในของแต่ละฝ่ายอย่างดุเดือดเลือดพล่าน หรือแม้กระทั่งการโยนหินถามทางของกูรูผู้ปราดเปรื่องก็มีไม่น้อย “โมนิก้า” เลยให้ความสนใจในเรื่องนี้มากกว่าบรรยากาศการลงทุนที่แกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างไม่มีกำหนด จึงขอทำหน้าที่เผือกแบบไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อยอย่างเต็มตัวอีกครั้งเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ประเด็นข่าวสัปดาห์นี้มีเรื่องราวของการแก่งแย่งแข่งขันมากมายหลายบริษัท ซึ่งมีทั้งการวัดกำลังภายในของแต่ละฝ่ายอย่างดุเดือดเลือดพล่าน หรือแม้กระทั่งการโยนหินถามทางของกูรูผู้ปราดเปรื่องก็มีไม่น้อย “โมนิก้า” เลยให้ความสนใจในเรื่องนี้มากกว่าบรรยากาศการลงทุนที่แกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างไม่มีกำหนด จึงขอทำหน้าที่เผือกแบบไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อยอย่างเต็มตัวอีกครั้งเจ้าค่ะ

*ก่อนจะไปถึงตรงนั้นขอบรรยายถึงเหตุการณ์ที่ดัชนีแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบ ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ระดับ 1,548.65 จุด ลบไป 1.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.95 หมื่นล้านบาท พร้อมกับทำให้แนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,550 จุดอ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องที่ทำให้แฟนคลับต้องลุ้นระทึกกันตลอดเวลา ซึ่งไม่เป็นผลดีสำหรับการลงทุนระยะต่อไปพะยะค่ะ

*วันนี้ถึงไม่ต้องถามว่า “โมนิก้า” ให้ความสำคัญกับเรื่องไหนเป็นพิเศษ เพราะเมื่อดูทรงกันยาว ๆ จะเห็นว่าเดี๊ยนมองการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นทีละสเต็ปเพื่อช่วยให้การทะยานของดัชนีแข็งแกร่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เผื่อใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันด้วยเช่นกัน จึงอยากให้มิตรรักแฟนเพลงพยายามทำตัวให้คุ้นเคยกับการสงบเสงี่ยมเจียมตัวสักหน่อยนะจะบอกให้

*ส่วนรายที่กองเชียร์เปิดหน้าแลกกันมันหยดติ๋ง ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่การคั่วเก้าอี้ซีอีโอของหุ้น PTT หลังมีกระแสข่าวเม้าท์มอยออกมาอย่างสนุกสนานว่า ช่วงนี้มีหลายตัวเต็งเข้ามาร่วมแจมตำแหน่งดังกล่าวเป็นระยะ เดี๊ยนถึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้รู้ว่า ผู้ท้าชิงที่ถูกส่งลงสนามแต่ละคนมาจากสังกัดไหน ? แถมเรื่องนี้ยังเป็นการบอกใบ้ให้สังคมได้รับรู้ว่ากลุ่มอำนาจไหนมาเต็มตัวแบบนี้..มันพะยะค่ะ

*เนื่องจากในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญมักจะมีการหยิบยกประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นประจำ ซึ่งในอดีตก็เคยเห็นกันมาแล้วว่า เฮีย ว. เคยโดนสงครามข่าวเล่นงานในทำนองเป็นขั้วตรงกันข้ามกับ คสช. ส่วนฟากของ เฮีย อ. ก็มีประเด็นในทอล์กถึงนายเก่าสมัยสร้างวีรกรรมขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ (เส้นการเมืองตอนนี้ปึ้กสุด ๆ) ขณะที่ เฮีย น. ก็เพิ่งถูกส่งมาเพื่อสร้างโปรไฟล์ก่อนจะดันให้สืบทอดอำนาจอะไรประมาณนี้แหละ!

*ทั้งหลายทั้งมวลเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับติดตามดูกันต่อไป เพราะกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้มันมาจากพวกขาเม้าท์กันทั้งนั้น ซึ่งบางครั้งอาจเป็นเรื่องที่เกินเลยจากความเป็นจริงไปเยอะ หรือบางทีอาจไม่มีอะไรในกอไผ่เลยก็เป็นไปได้เช่นกัน เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับดูคำพูดของ รมว.พลังงาน ที่ชื่อ “สนธิรัตน์” ซึ่งพูดเจื้อยแจ้วไม่แทรกแซงการคัดเลือกหัวเรือใหญ่ของ ปตท. เชื่อได้ไหม ?..ลองถามใจเธอดูนะคะ

*เรื่องถัดมาที่นักเล่นต้องคิดมากเป็นพิเศษคงเป็นข่าวลือที่เม้าท์กันตลอดทั้งวันว่า แบงก์ตราดอกบัว BBL กลายเป็นอีแอบที่อาศัยช่วงชุลมุนเทกระจาดหุ้นพลังงานแรงสูงอย่าง GULF แบบไม่มีเยื่อใย พร้อมกับมีการเปรย ๆ ถึงการกระทำในครั้งนี้เพื่อนำเงินไปสมทบทุนซื้อหุ้นแบงก์อินโด “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่นักเล่นต้องกลับไปคิดเป็นการบ้านเหมือนกัน เพราะรูปการณ์มันทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ น่ะซี

*ยิ่งวานนี้เห็นหุ้นแบงก์สวนตลาดฯ ตั้งแต่เปิดซื้อขาย ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 156 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.50 พันล้านบาท ยิ่งเป็นแรงกระเพื่อมให้ข่าวเม้าท์มีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นไปอีก ส่วนฝ่ายที่ถูกกระทำก็ร่วงผล็อยลงมายืนปิดที่ 157 บาท ลบไป 4.50 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.68 พันล้านบาทแบบนี้..หนู ๆ มองว่า เรื่องนี้มันมีมูลไหมล่ะคะ

*เหมือนกับข่าวเม้าท์เรื่องการซื้อโลตัสก็มีการวิเคราะห์กันไปต่าง ๆ นานา ตามประสาผู้รู้ที่มีมากมายในแวดวงตลาดเงินตลาดทุนก็มีการชี้เป้าไปยังกลุ่มซีพี (ตอนนั้นใช้ ซีพี ออลล์ ซื้อหุ้น แม็คโคร) ก็เป็นกลุ่มแรกที่มีการเอ่ยถึงมากเช่นกัน ถัดมาก็มีการเอ่ยถึงชื่อกลุ่มเสี่ยเจริญ (ตอนนั้นใช้ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ซื้อหุ้น บิ๊กซี) ก็เป็นกลุ่มที่มีหน้าตักเยอะในการเทกโอเวอร์เช่นกัน หรือแม้กระทั่งชื่อของกลุ่มเซนทรัลฯ (ทุ่มเงินซื้อแกร็บ เพื่อต่อยอดธุรกิจค้าปลีก) ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีโอกาสเสียบเข้ามาสูงเหมือนกันเจ้าค่ะ

*ตบท้ายกันที่อาการหลุดจองของหุ้นฟอร์มใหญ่ แต่ผลงานกระจิ๋วหลิวอย่าง BAM กันสักหน่อยดีกว่า เพราะข่าวที่เขาเม้าท์กันให้แซ่ดเป็นเรื่องการเติบโตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ผนวกกับเงินระดมทุนที่ได้มาส่วนใหญ่ก็เอาไปใช้หนี้ที่ติดค้างกันมาตั้งแต่สมัยก่อน เลยเหลือเงินไว้ใช้ในการต่อยอดธุรกิจแค่นิดหน่อยนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องประเมินสถานการณ์กันเอาเอง หลังหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 17.30 บาท (ไอพีโอ 17.50 บาท) ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.55 พันล้านบาท มันหมายความว่า กรีนชูไม่ช่วยอะไรเลยนะเนี่ย..โปรดฟังอีกครั้ง!

Back to top button