เวลา คือ ตัวกำหนด!!โมนิก้าและทีมงาน

* “โมนิก้า” นั่งพิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ไหลพรั่งพรูเข้ามาในตลาดหุ้นทั้งวัน เพื่อนำไปออกแบบการลงทุนในอนาคตว่าควรเป็นเช่นไร และหุ้นกลุ่มไหนควรเน้นหนักลงทุนเหมือนเดิม (เบญจภาคี คือ แบงก์ ไฟแนนซ์ สื่อสาร พลังงาน และอสังหาฯ) หรือแม้กระทั่งควรพิจารณาปรับหุ้นตัวไหนออกจากพอร์ตโดยด่วน ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “เวลา” ล้วนๆ เสื้อผ้าไม่เกี่ยวนะจะบอกให้

*เนื่องจากเงื่อนไขทางด้าน “เวลา” เป็นตัวกำหนดยุทธศาสตร์การลงทุนได้ค่อนข้างชัดเจน และที่ผ่านมาก็ให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเห็นได้จากผลงานของ บลจ. ค่ายชั้นนำ หรือแม้แต่ ประกันสังคม และ กบข. ก็มีการบรรจุเรื่อง Timing เข้าไปอยู่ในระบบคัดกรองหุ้นเหมือนกัน และสิ่งที่ทุกคนรับรู้เหมือนกันในตอนนี้ก็คือ ทุกครั้งที่ต่างชาติเกิดความรู้สึกกังวลใจ มักทำให้หุ้นไทยแกว่งตัวลงเป็นเดือนๆ เจ้าค่ะ

*หากพิจารณาเรื่องที่เดี๊ยนเกริ่นนำให้ฟัง แล้วนำมาคำนวณบนพื้นฐาน(หุ้นขึ้น เพราะมีคนซื้อ) “โมนิก้า” ขอแนะนำให้นักลงทุนเอาหุ้นที่เดี๊ยนแนะนำให้ซื้อไปเมื่อวันก่อนๆ คูณ 5% เข้าไป ก็จะได้ราคาเป้าหมายที่หุ้นจะขึ้น..แต่ทั้งนี้ไม่ควรเกินราคาสูงสุดครั้งก่อนที่ทำไว้ เพราะมีตัวถ่วงเรื่องผลประกอบการไตรมาส 2  ที่ออกมาค่อนข้างแย่!!..งานนี้บอกแท็กติกเล็กๆ น้อยๆ กันแล้ว..ก็ลองนำไปปฏิบัติด้วยนะจ๊ะ

*ส่วนที่มีข่าวดีไม่รู้จักจบจักสิ้นก็คือ EA ราคาหุ้นค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสันมานานแล้ว แต่เพิ่งกระชากแรงขึ้นได้แค่ 1-2 วันนี้เอง และราคาเป้าหมายที่ทุกคนมองไปข้างหน้าอยู่ที่ 30 บาท ซึ่งเป็นยอดเดิมของการขึ้นเที่ยวก่อนเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า รอบนี้มีลุ้นอย่างแน่นอน เพราะหุ้นยืนปิดแค่ระดับ 21.50 บาท ลบไป 0.10 บาท มันเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนรอบใหม่นะค่ะ

*ส่วนหุ้นที่เชียร์แล้วไม่รู้สึกผิดหวังก็คือ FSMART ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป้าหมายที่ทุกคนรับรู้กันอย่างกว้างขวางก็คือ 20 บาทเป็นอย่างต่ำ!!..บวกกับล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 14.20 บาท ลบไป 0.10 บาท  ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นแบบนี้..ข่าวแว่วๆ ที่พรายกระซิบแอบได้ยินมานั้น เขาบอกว่า ไตรมาส 2 ผลงานน่าจะออกมาประทับใจจอร์จนะจะบอกให้

*ส่วนหุ้นแอบชอบที่ “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนลองพิจารณาเป็นพิเศษก่อนหน้านี้อย่าง TVTยังคงเป็นหุ้นทีเด็ดสำหรับขาลุยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้ราคาหุ้นจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 2.38 บาท ลบไป 0.14 บาท หรือขึ้นไปอีก 5.50% ก็ไม่ได้ทำให้เหล่าผู้กล้าจากทั่วสารทิศหวั่นใจแต่อย่างใดแบบนี้ แสดงว่ามีพวกนกรู้รอเก็บของค่อนข้างเยอะ จึงมีรายการเขย่าเอาของให้เห็นเป็นระยะ จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับคนที่จิตใจเข้มแข็ง และเป้าหมายของหุ้นในเที่ยวนี้ยังอยู่ที่ระดับ 3 บาทเป็นอย่างต่ำเหมือนเดิมนะคะ

* เช่นเดียวกับในรายของ CHOราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 3.58 บาท ลบไป 0.04 บาท ล้วนมาจากความไม่ชัดเจนของรถเมล์ NGV จึงมีแรงเทขายกระหน่ำออกมาเยอะแยะ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่คุณๆ ท่านๆ รู้กันอยู่เต็มอก ล่าสุดดูเหมือนว่า ความชัดเจนในเรื่องการเซ็นสัญญาจะแจ่มแจ้งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูหุ้นตัวนี้ให้ดีเป็นพิเศษไงล่ะค่ะ

*ส่วนหุ้นเก็งกำไรที่โผล่ขึ้นมาเยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะเป็น KC, ASIMAR, VNG, LIVE, CEN, TSF  ล้วนเป็นโมเดลเดียวกันแทบทั้งสิ้น และมุกที่เห็นนำมาใช้เป็นประจำก็หนีไม่พ้น “เทิร์นอะราวด์” พร้อมกับมีกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาเป็นเจ้ามือในการทำราคา “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องปกติที่ได้ยินเป็นประจำ แต่อยากจะเตือนไว้ว่า ขนาดหุ้นน้องใหม่ DAII โชว์เก๋าได้ไม่ทันไร ล่าสุดหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 8.60 บาท ลบไป 3.40 บาท หรือลงไป 28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.87 พันล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่บอกให้รู้ว่า พอขาใหญ่เลิกเล่นทีไร หุ้นลูกเต๋าเละเป็นโจ๊กทุกทีนะจะบอกให้

* ย้ำกันอีกครั้งว่า การที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,438.08 จุด ลบไป 6.58 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 2.80 หมื่นล้านบาท ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะตามหลักวิชาการ เมื่อมองตลาดหุ้นไทยในช่วง 6 เดือนข้างหน้าแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลยจึงไม่มีความจำเป็นต้องถือหุ้นยาวๆ ซึ่งสอดคล้องกับหัวเรื่องที่เดี๊ยนเกริ่นนำไว้ตั้งแต่ท่อนบนว่า วันนี้หุ้นเล็กกลายเป็นทางเลือกหลักไปแล้วนะจ๊ะ

*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่ “โมนิก้า” พยายามแนะนำให้นักลงทุน “เล่นสั้นๆ” เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้พอร์ตลงทุนมีความคล่องตัว และยังจะทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถย้ายหุ้นได้ทันกระแส เดี๊ยนถึงค่อนข้างมั่นใจว่า โอกาสที่ดัชนีจะวิ่งขึ้นยาวๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเมื่อดูมูลค่าการซื้อขายที่ยังเปาะๆ แปะๆ ย่อมเป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการ “ขึ้นวัน ลงวัน” นะจะบอกให้