คืนสู่การเมืองสามานย์

พรรคอนาคตใหม่ทำไมเกิด “งูเห่า” มองข้ามความขัดแย้งเรื่องอื่นไปก่อน ก็มีปัญหาที่เข้าใจได้


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

พรรคอนาคตใหม่ทำไมเกิด “งูเห่า” มองข้ามความขัดแย้งเรื่องอื่นไปก่อน ก็มีปัญหาที่เข้าใจได้

ส.ส.เขตอนาคตใหม่ ได้มาด้วยกระแส บางเขตได้ฐานเสียงไทยรักษาชาติ บวกคนรุ่นใหม่ คนชั้นกลางในเมืองเปลี่ยนใจ ทำให้ชนะไม่คาดฝัน บางเขตชนะกระทั่งเพื่อไทย โดยเฉพาะเขตเมืองมหาวิทยาลัย ทั้งที่ไม่รู้ผู้สมัครมาจากไหน

แต่พอชนะแล้ว จะรักษาเก้าอี้อย่างไร เลือกตั้งสมัยหน้า กระแส “ฟ้ารักพ่อ” ยังไงก็ไม่แรงเท่าครั้งนี้ แถมยังถูกให้ร้ายป้ายสี

ที่สำคัญ คือชัยชนะที่ได้จากการหาเสียงออนไลน์ เมื่อลงสนามจริง ไม่เพียงแบกรับความคาดหวังหลากหลาย ยังไม่สามารถปฏิเสธ “วิถีไทย” เดินสายงานศพงานบวช ชาวบ้านอยากให้ช่วยเหลือนั่นนี่ ทั้งส่วนตัวและขอโครงการรัฐ

พูดง่าย ๆ คือต้องสู้กับ “การเมืองระบบอุปถัมภ์” ที่ฝังรากมานาน ส.ส.ต้องเป็นคหบดี ทุนท้องถิ่น ส่วนใหญ่ก็ผู้รับเหมา รับกินสองทาง คือได้ทั้งประมูลงานและสนองชาวบ้าน

ส.ส.ที่มาจากคนชั้นกลาง หาที่ยืนลำบาก เว้นแต่จะได้เงินพรรค ซึ่งหักหัวคิวจากโครงการต่าง ๆ เมื่อได้เป็นรัฐบาล ดังนั้นอย่าว่าแต่อนาคตใหม่ ส.ส.เพื่อไทยก็กระอัก ขณะที่ ส.ส.บางพรรค ได้เงินลงพื้นที่เดือนละสามแสน หล่อเลี้ยงระบบหัวคะแนน

การเมืองเป็นเรื่องปากท้อง ขณะที่พรรคอนาคตใหม่รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ชาวบ้านอาจบอกว่าอยากได้ฝายกั้นน้ำ อนาคตใหม่จึงต้องพยายามคิดวิธีหาเสียงสร้างสรรค์ เช่นทำกิจกรรมต่าง ๆ  ซึ่งสู้ลำบากอยู่ดี อีกวิธีคือต้องเอาชนะเลือกตั้งท้องถิ่น จะได้มีงบบริหาร ทดแทนการเรียกร้องจาก ส.ส. แต่วันนี้รัฐบาลก็ยังยื้อไปเรื่อย ๆ

มองอย่างนี้จะเข้าใจ ทำไม ส.ส.เขตจึงดิ้นรน โดยเฉพาะบางคนที่มาจาก สจ. เคยชินกับระบบอุปถัมภ์ วิ่งของบโรงพยาบาล ไม่ยอมทำใจว่าได้เป็น ส.ส.ครั้งหนึ่งในชีวิตก็บุญโข ดิ้นรนจนถูกประณาม

การเมืองระบบอุปถัมภ์ไม่ใช่แค่ซื้อเสียง แต่ทำครบวงจร สร้างถนนสร้างฝายอุดหนุนวัดมัสยิด ใช้ทั้งงบรัฐเงินพรรคเงินส่วนตัว จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่จะปราบโกงตามความฝันขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

รัฐธรรมนูญ 2540 สลายการเมืองระบบอุปถัมภ์ด้วยการกระจายอำนาจ เพิ่มบทบาท อปท. ประกอบกับพรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งด้วยนโยบาย ถึงแม้นักการเมืองไทยรักไทยก็มาจากระบบอุปถัมภ์ แต่การเลือกพรรคเริ่มสำคัญกว่าตัวบุคคล ยิ่งขัดแย้งแบ่งสี ยิ่งเกลียดชัง ระบบอุปถัมภ์หรือซื้อเสียงยิ่งน้อยลง

รัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบให้เกิดรัฐบาลผสม ให้องค์กรอิสระควบคุมการหาเสียงด้วยนโยบาย แถม 5 ปี คสช.ก็ทำลายการกระจายอำนาจ ริบอำนาจ อปท.กลับสู่มหาดไทย ทำให้ประชาชนต้องพึ่งการสงเคราะห์จากรัฐ

การเมืองจึงกลับสู่ยุคสามานย์ ใครคุมอำนาจรัฐได้เปรียบเหนือการเลือกตั้ง

ไม่นานมานี้เจอคนรู้จัก มีอาชีพรับจ้างหาเสียง ทำโพลวิเคราะห์เจาะจุดแข็งจุดอ่อนก่อนยิงให้เข้าเป้า เขาบอกว่ามันเป็นศาสตร์และศิลป์ ไม่ใช่หิ้วกระเป๋าอย่างเดียว ก่อนอื่นต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าใครจะชนะได้เป็นรัฐบาล

“ขอโทษนะ ต้องทำมาหากิน” พวกเขารู้ดีว่ากติกานี้เลวร้ายเพียงไร แต่ในการหาเสียง ก็เรียกประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อปท. ผู้นำชุมชน มากางรัฐธรรมนูญให้ดู “รัฐธรรมนูญนี้ร่างมาเพื่อพวกเรา” เป็นรัฐบาลแหง ๆ ใครไม่เอาด้วยก็ออกไป แล้วอย่าหวังจะได้งบประมาณโครงการรัฐ ต่อไปก็จะรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ไม่ได้

เหตุนี้เอง (ประกอบกับกระสุนไม่อั้น) พวกเขาจึง “สอย” ส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยได้หลายพื้นที่

เช่นเดียวกัน ยังจะมี “งูเห่า” อีกหลายราย ภายใต้ระบอบผูกขาดอำนาจ ใช้ทุกวิถีทางสามานย์เพื่อครองอำนาจยาวไป

Back to top button