สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ธ.ค. 2562
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ธ.ค. 2562
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นทำนิวไฮอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ (20 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด และนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นท่ามกลางความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความคืบหน้าในการคลี่คลายความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,455.09 จุด เพิ่มขึ้น 78.13 จุด หรือ +0.28%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,221.22 จุด เพิ่มขึ้น 15.85 จุด หรือ +0.49% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,924.96 จุด เพิ่มขึ้น 37.74 จุด หรือ +0.42%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้นหลังจากที่สภาสามัญชนหรือสภาล่างของอังกฤษลงมติเห็นชอบในหลักการกับร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 31 ม.ค. 2563 ซึ่งได้ช่วยขจัดความไม่แน่นอนที่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากว่า 3 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.80% ปิดที่ 418.40 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,021.53 จุด เพิ่มขึ้น 49.26 จุด หรือ +0.82%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,318.90 จุด เพิ่มขึ้น 106.94 จุด หรือ +0.81% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,582.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.66 จุด หรือ +0.11%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (20 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้นหลังเงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดขานรับสภาสามัญชนหรือสภาล่างของอังกฤษลงมติให้ความเห็นชอบในหลักการกับร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 31 ม.ค. 2563 ซึ่งได้ช่วยขจัดความไม่แน่นอนที่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากว่า 3 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,582.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.66 จุด หรือ +0.11%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (20 ธ.ค.) โดยถูกกดดันหลังเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 74 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 60.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 66.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (20 ธ.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและตลาดหุ้นที่ทะยานขึ้นกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำออกมา เพราะมีความน่าสนใจน้อยลงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 3.50 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 1,480.90 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 0.02%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.41% ปิดที่ 17.224 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 21.7 เซนต์ หรือ 2.32% ปิดที่ 913.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ดิ่งลง 92.10 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 1,808.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.32% สู่ระดับ 97.6930
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.47 เยน จากระดับ 109.28 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9825 ฟรังก์ จากระดับ 0.9776 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3154 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3118 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1074 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1124 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.3013 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3014 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.6902 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6885 ดอลลาร์สหรัฐ