สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ธ.ค. 2562

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลจีนจะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้ากว่า 850 รายการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากราคาหุ้นโบอิ้งที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากบริษัทประกาศปลดนายเดนนิส มุยเลนเบิร์ก พ้นตำแหน่งซีอีโอ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,551.53 จุด เพิ่มขึ้น 96.44 จุด หรือ +0.34% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,224.01 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด หรือ +0.09% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,945.65 จุด เพิ่มขึ้น 20.69 จุด หรือ +0.23%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่การซื้อขายเบาบางลงอย่างมากก่อนวันหยุดคริสต์มาส และวันเปิดกล่องของขวัญ (Boxing Day) ในสัปดาห์นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.03% ปิดที่ 418.27 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,300.98 จุด ลดลง 17.92 จุด หรือ -0.13% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,029.37 จุด เพิ่มขึ้น 7.84 จุด หรือ +0.13% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,623.59 จุด เพิ่มขึ้น 41.11 จุด หรือ +0.54%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 9 แล้ว ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางก่อนวันหยุดคริสต์มาส และวันเปิดกล่องของขวัญ (Boxing Day) ในสัปดาห์นี้ ขณะที่เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,623.59 จุด เพิ่มขึ้น 41.11 จุด หรือ +0.54%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่า การทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะช่วยหนุนเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ดี แรงบวกของราคาน้ำมันได้ถูกสกัดลงในระหว่างวัน หลังจากรัสเซียระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรอาจพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตน้อยกว่าที่กำหนดไว้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 60.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 66.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 1,488.7  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 27.5 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 17.499 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 24.6 ดอลลาร์ หรือ 2.69% ปิดที่ 938.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 40.10 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 1,849 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ร่วงลง 2% ในเดือนพ.ย.

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.36 เยน จากระดับ 109.47 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9817 ฟรังก์ จากระดับ 0.9825 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3151 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3154 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1093 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1074 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2939 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3013 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6924 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6902 ดอลลาร์