ปีสารหนู
สื่อทำเนียบตั้งฉายารัฐบาล แม้บางฉายายังไม่สะใจคอการเมือง เพราะไม่สะท้อนเชิงระบบ เช่น รัฐบาลถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ ไม่มีท่อนที่ว่า จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แล้วก็เกิดสองมาตรฐาน รัฐธรรมนูญมีไว้ล้างบางฝ่ายค้าน
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
สื่อทำเนียบตั้งฉายารัฐบาล แม้บางฉายายังไม่สะใจคอการเมือง เพราะไม่สะท้อนเชิงระบบ เช่น รัฐบาลถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ ไม่มีท่อนที่ว่า จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แล้วก็เกิดสองมาตรฐาน รัฐธรรมนูญมีไว้ล้างบางฝ่ายค้าน
นายกฯ ก็มีปัญหาที่มาอำนาจ “ตู่ห้าร้อย” ตั้ง 250 ส.ว.มาโหวตตัวเอง 250 ส.ส.ก็มาจากสูตรเศษคนของ กกต.
กระนั้น อิเหนาเมาหมัดก็ควันออกหู เพราะถูกจี้ใจดำ (โปรดดูวิกิพีเดีย ข้อคิดจากอิเหนาคือเป็นคนที่เอาแต่ใจตนเอง ใช้อารมณ์ ใช้กำลัง ไม่รู้จักประมาณตน ทำอะไรไม่ยั้งคิด) อิเหนารายนี้คิดว่าตัวเองแตะต้องไม่ได้ เป็นผู้มีพระคุณต่อประชาชน ยึดอำนาจเข้ามาสถาปนาตนเป็นญาติผู้ใหญ่ อบรมสั่งสอนคนไทยไม่รู้จักคิด ไม่รู้จักทำมาหากิน ฉะนั้นสื่อต้องยกย่องให้กำลังใจ
ทั้งที่คนครึ่งประเทศบอกว่าไม่ใช่ญาติไม่ใช่ลุง จะวิ่งไล่อยู่นี่
บางฉายาเบาไป บางฉายาก็ถูกใจ เช่น “สารหนู” ซึ่งน่ายืมมาใช้ เพราะปีหน้าปีหนูพอดี “สารหนู” พิษสงรอบตัว แม้ยังไงก็อยู่ร่วมรัฐบาล แต่เบื้องหลังไม่ไว้วางใจกัน สถานการณ์ปีหนูก็เห็นจะไม่ต่าง คือสารพิษเต็มไปหมด ทั้งทางเศรษฐกิจการเมือง
เศรษฐกิจปีหน้าเผาจริง? บางคนบอกไม่ใช่ ลอยอังคารต่างหาก แต่ฟากรัฐก็ตีปี๊บว่าดีขึ้น ไม่อยากเบรกเลย จดบันทึกไว้แล้วกัน เพราะปี 62 เก็งผิดทุกสถาบัน เช่น กนง.ปลายปีที่แล้วตั้งเป้า 4.0 จากนั้นก็สาละวันเตี้ยลง ๆ 3.8,3.3,2.8 และ 2.5
ดัชนีตลาดหุ้น ต้นปี โบรกเกอร์คาดว่า 1,743 นั่นคือรายที่ประเมินต่ำสุด ถัดมา 1,760 1,795 1,817 1,850 และ 2,000 แล้วปีหน้าจะเป็นอย่างไร
เศรษฐกิจยุค disrupt หลุดพ้นการประเมินง่าย ๆ ไปตั้งนานแล้ว ไม่น่าแก้ได้เพียงเพราะยุติสงครามการค้า ลดดอกเบี้ย ๆ ๆ กระตุ้น ๆ ๆ อย่างที่ทำมาเป็นทศวรรษ
การเมืองปีหน้า แหงละ เครือข่ายอนุรักษนิยมที่เคลื่อนย้ายมาจาก คสช.ยังมีอำนาจมั่นคง คุมได้ทั้งกองทัพ องค์กรกฎหมาย องค์กรอิสระ รัฐสภา ซึ่งถ้ามีปัญหาปริ่มน้ำ ยังสามารถเปิด “ฟาร์มงูเห่า”
รัฐบาลเพิ่งชนะเลือกตั้งซ่อม ซึ่งสะท้อนว่า การเมืองกำลังกลับสู่ระบบอุปถัมภ์ภายใต้รัฐราชการเป็นใหญ่ กลไกการเมืองในชนบท ในท้องถิ่น ต้องพึ่งพิงรัฐ ผ่านนักการเมืองที่กวาดต้อนมามากมาย
ฝ่ายค้านสู้ไม่ได้หรอก เผลอ ๆ เลือกตั้งครั้งหน้าจะสาหัส เพราะกลไกรัฐ ผู้นำชุมชน ถูกกระชับไว้หมด สะสมเสบียงพร้อมพรั่ง
แต่การเมืองปีหน้าจะไม่สงบ เพราะเครือข่ายอนุรักษ์จะรุกขยี้พลังเสรีนิยม โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ภายใต้บรรยากาศเหมือนย้อนยุค 6 ตุลา 2519 เพียงเปลี่ยนเป็นปลุกความเกลียดชังแล้วฆ่าด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจ้องยุบพรรค ตัดสิทธิ ดำเนินคดี ในนามความยุติธรรม
ทั้งที่ความเชื่อถือต่อองค์กรยุติธรรม โดยเฉพาะคดีการเมือง ล่มสลายไปนานแล้ว รวมถึงความเชื่อถือศรัทธาต่อข้ออ้าง อำนาจตุลาการองค์กรอิสระเป็นมหาเทพคนดีมีศีลธรรม
ซ้ำในขณะเดียวกัน รัฐบาลทหารผสมพันธุ์นักการเมือง ก็จะหนีไม่พ้นเรื่องอื้อฉาว สังคมไม่ไว้วางใจ คนชั้นกลางในเมืองที่เคยไล่ “ระบอบทักษิณ” แบ่งเป็นสองข้าง ข้างหนึ่งยังหนุนสุดขั้วสุดโต่ง ข้างหนึ่งออกห่างหรือต่อต้าน
ความไม่พอใจรัฐบาลยังอาจมาจากปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำ แบบบ้านหลังที่สอง ที่ว่าง 50 ตารางวา ต้องเสียภาษีแต่ที่หมื่นล้านปลูกมะนาว
รัฐบาลผสมก็ยังจะวางสารพิษกันเอง แต่ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องสมประโยชน์กันต่อไป ไม่สามารถปรับพรรคไหนออก ถ้าถึงจุดเสื่อม
อำนาจนี้อยู่ภายใต้ความเชื่อว่า แม้ไม่สงบ เต็มไปด้วยความไม่พอใจ คนก็ไม่กล้าลุกฮือ แต่นี่คือปีสารหนู ไว้วางใจไม่ได้เลย