เหงาสุดในรอบ 4 ปี

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่บรรยากาศการลงทุนมีลักษณะแห้งเหี่ยวลงไปเรื่อย ๆ จนผู้เล่นเริ่มผละหน้าหนีจากกระดานหุ้นเพื่อไปเฉลิมฉลองเทศกาลต้อนรับปีใหม่กันเป็นแถว จนในที่สุดดัชนีก็ทำได้แค่เพียงประคองตัวปิดที่ 1,573 จุด บวกไป 4.37 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 2.13 หมื่นล้านบาท (เหงาสุดในรอบ 4 ปี) “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนคงเริ่มชินตากันบ้างแล้ว และในสัปดาห์หน้าก็คงเห็นบรรยากาศที่ซบเซาเช่นนี้อีกครั้งนะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่บรรยากาศการลงทุนมีลักษณะแห้งเหี่ยวลงไปเรื่อย ๆ จนผู้เล่นเริ่มผละหน้าหนีจากกระดานหุ้นเพื่อไปเฉลิมฉลองเทศกาลต้อนรับปีใหม่กันเป็นแถว จนในที่สุดดัชนีก็ทำได้แค่เพียงประคองตัวปิดที่ 1,573 จุด บวกไป 4.37 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 2.13 หมื่นล้านบาท (เหงาสุดในรอบ 4 ปี) “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนคงเริ่มชินตากันบ้างแล้ว และในสัปดาห์หน้าก็คงเห็นบรรยากาศที่ซบเซาเช่นนี้อีกครั้งนะจ๊ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงต้องคัดหุ้นที่จะเล่นเป็นรายตัว หลังเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า ช่วงนี้มีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีอาจต้านไม่ไหวก็เป็นไปได้ และมีสิทธิที่จะรูดกลับไปตั้งหลักแถวแนวรับ 1,550 จุดทุกเมื่อ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำใจยอมรับโดยไม่มีข้อแม้อีกครั้ง เพราะองค์ประกอบหลายอย่างไม่เอื้อต่อการลงทุน การเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจึงเป็นทางออกที่ดีสุดในเวลานี้ไงล่ะคะ

*ที่สำคัญเมื่อดูจากอาการร้อนรนของเหล่านักเล่น จะเห็นว่าทุกคนพร้อมจะถอยฉากไปทำอย่างอื่นเพื่อเป็นการฆ่าเวลาไปชั่วคราว ผู้เล่นก็ไม่จำเป็นต้องฝืนอะไรอีกต่อไป เพราะจังหวะนี้เป็นช็อตของการขายไปเที่ยวแบบไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง เพราะการลงทุนทุกอย่างถูกเซ็ทไว้เป็นปี 2563 และรายละเอียดดังกล่าวจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากผ่านช่วงกลางเดือน ม.ค. นะจะบอกให้

*ประเภทมาแรงแซงทางโค้ง แถมทุกคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ คงต้องยกให้ SGP ไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายขึ้นมายืนอยู่ที่ 9.70 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 7.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 145 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการแหวกกระแสขึ้นมาโชว์เพาเวอร์ที่น่าสนใจ และถ้ามองตามสัญญาณเทคนิคก็บอกได้ทันทีว่า แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 10.50 บาท จึงเป็นช็อตที่ตามน้ำสั้น ๆ ได้อีกนิดหนึ่งค่ะ

*ส่วนในรายของ GGC ถือเป็นทีเด็ดแบบ ชุดใหญ่..ไฟกะพริบ หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายมาปิดที่ 12.10 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเล่นบนความคาดหวังตัวเลขผลกำไรปีหน้าจะมาตามนัด “โมนิก้า” ถึงมองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ยังอยู่ในโหมดของการยกตัวสูงขึ้นอย่างถาวร จึงน่าจะเป็นจังหวะเคาะขวาเบา ๆ เพื่อเกาะกระแสเจ้าค่ะ

*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีแบ็คกราวด์เรื่องกำไรโตเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง “โมนิก้า” คงต้องหันไปมองหุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้นได้ไม่นานอย่าง RBF หลังโรงงานเตรียมเดินเครื่องกำลังผลิตเต็มอัตราในปีหน้า วานนี้เลยมีแรงซื้อกลับเข้ามาไล่หุ้นอีกครั้ง จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ 4.18 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55 ล้านบาท มันเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นที่มีต่อหุ้นตัวนี้ก็เท่านั้นเองค่ะ

*ส่วนในรายของหุ้นสุดเลิฟอย่าง BGRIM ยังคงเป็นช็อตที่น่าตามไปดูเหมือนเดิม หลังหุ้นถีบตัวขึ้นรอบใหม่ให้เห็นตำตา ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 52.50 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 314 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เพราะของมันเห็นกันอย่างทนโท่อยู่แล้วว่า ตั้งแต่ได้โปรเจกต์โรงไฟฟ้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นไปถึง 55 บาทเป็นอย่างต่ำมาแล้ว เลยเชื่อว่ารอบนี้น่าจะขึ้นไปได้อีกนะคะ

*สำหรับในรายของ VGI ถือเป็นด่านทดสอบสำหรับพวกมือไวใจกล้า ที่สำคัญยังพร้อมลุยแม้วันมามาก หลังหุ้นทะยานขึ้นมายืนอยู่ที่ 9.45 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง แถมรอบก่อนหน้านี้ก็ไม่สามารถฝ่ากระแสขึ้นไปปิดเหนือแนวต้าน 9.60 บาท เที่ยวนี้ถึงเป็นการวัดกำลังภายในว่าแข็งจริงอ๊ะป่าวนะตัวเอง!

*เหมือนกับในรายของ KTC กระชากขึ้นแรงแต่ยังไม่เฉลยให้ชาวหุ้นได้รู้ว่ามีอะไรในกอไผ่หรือเปล่า ? “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองคิดตามอีกสักครั้งว่า จากหุ้นที่เคยขึ้นไปพีกบริเวณราคา 48 บาทในช่วงกลางปี แต่หลังจากนั้นดันอ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟ พร้อมกับเกิดปรากฏการณ์ “ดัน ๆ ทุบ ๆ” จนหุ้นลงไปทำโลว์ที่ระดับ 37.50 บาท ก่อนจะตีตื้นขึ้นมาปิดที่ 39.25 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 87 ล้านบาท มันมีอะไรผิดปกติไหมล่ะคะ

Back to top button