สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ธ.ค. 2562

ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นทำนิวไฮเมื่อวันศุกร์ (27 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของจีน และความคืบหน้าในเชิงบวกเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลงหลังบวกขึ้นติดต่อกัน 11 วัน ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในช่วงก่อนสิ้นปี และคาดว่าการซื้อขายจะยังคงซบเซาไปจนถึงวันพุธหน้า ซึ่งตลาดจะปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,645.26 จุด เพิ่มขึ้น 23.87 จุด หรือ +0.08% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,240.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด หรือ +0.00% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,006.62 จุด ลดลง 15.77 จุด หรือ -0.17%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า สหรัฐ-จีนจะลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเร็วๆนี้ และตลาดยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.21% ปิดที่ 419.74 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,037.39 จุด เพิ่มขึ้น 7.84 จุด หรือ +0.13%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,337.11 จุด เพิ่มขึ้น 36.13 จุด หรือ +0.27% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,644.90 จุด เพิ่มขึ้น 12.66 จุด หรือ +0.17%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 ธ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 11 หลังจากหุ้นที่อ่อนไหวกับประเด็นการค้าปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มที่สหรัฐ-จีน จะลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกเร็วๆ นี้ และตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของจีนด้วย ขณะที่การซื้อขายในตลาดยังคงเบาบางหลังวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,644.90 จุด เพิ่มขึ้น 12.66 จุด หรือ +0.17%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงเกินคาด และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 61.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 68.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 ธ.ค.) โดยอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และปรับตัวขึ้นมากที่สุดในสัปดาห์นี้ในรอบ 4 เดือน หลังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ และนักลงทุนยังเข้าซื้อทองในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 1,518.1 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งสัปดาห์นี้ สัญญาทอง บวก 2.45% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.7 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 17.943 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.3 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 956.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 12.60 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 1,881.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์และเข้าซื้อสกุลเงินอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงแต่ให้ผลตอบแทนมากกว่า หลังจากที่ตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการค้าโลกที่สดใส ขณะที่สหรัฐ-จีนใกล้จะลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างกันเร็วๆนี้ โดยสกุลเงินที่อ่อนไหวต่อการค้า อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.62% สู่ระดับ 96.9328

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1185 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1101 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.3093 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3006 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6984 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6944 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.40 เยน จากระดับ 109.64 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9734 ฟรังก์ จากระดับ 0.9806 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3071 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3107 ดอลลาร์แคนาดา