SUPER วิ่งแรง 4% ส่งท้ายปี! หลัง COD โซลาร์ฯเวียดนาม หนุนกำลังผลิตทะลุ 1 พันเมกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ล่าสุด ณ เวลา 10.33 น. อยู่ที่ระดับ  0.56 บาท ปรับตัวขึ้น 0.02 บาท หรือ 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42.77 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น SUPER ปรับตัวขึ้นแรงในวันนี้ (30 ธ.ค.62) หลังจากประกาศจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม 50 MW หนุนยอด COD ปีนี้พุ่ง 1,005.32 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ชื่อโครงการ Sinenergy Ninh Thuan ในประเทศเวียดนาม ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) จำนวน 1 โครงการ กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ (MW) ส่งผลให้มีโครงการที่ COD ในประเทศเวียดนามเพิ่มเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 5 โครงการ เป็นกำลังการผลิตรวม 236.72 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นไปตามแผนการขยายการลงทุนในต่างประเทศ และเมื่อรวมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทย่อยของ SUPER ในประเทศไทยที่ COD แล้วจำนวน 768.60 เมกะวัตต์ จะทำให้มีจำนวนกำลังการผลิตที่ COD รวมทั้งสิ้น 1,005.32 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ในส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตรวม 422 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมีความพร้อมเริ่มทยอยก่อสร้างแล้ว โดยแบ่งเป็นโครงการพลังงานกังหันลมทางทะเล ขนาดกำลังการผลิต 172 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานลมบนพื้นดิน กำลังการผลิตประมาณ 250 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการ COD ได้บางส่วนในช่วงปลายปี 2563

ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าในประเทศก็มีแผนการขยายต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้มากขึ้น ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชน จังหวัดหนองคาย กำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชน จังหวัดพิจิตร กำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ พลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่จังหวัดนนทบุรี กำลังการผลิตติดตั้ง 20 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน จากขยะชุมชนที่จังหวัดเพชรบุรี กำลังการผลิตติดตั้ง 9.90 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มทยอยพัฒนาโครงการตามแผนงานของบริษัท

รวมทั้งบริษัทได้ทำการขายไฟฟ้าโดยตรงให้กับลูกค้าในลักษณะ Private PPA โดยล่าสุดได้เซ็นสัญญาขายไฟฟ้าให้กับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ด้วยระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์แบบติดตั้งบนพื้นดิน กำลังการผลิตติดตั้ง 4.04 เมกะวัตต์ เพิ่มเติมจากเดิมที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับบริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่ง และอยู่ระหว่างการเจรจาผู้ประกอบการอีกหลายราย

อย่างไรก็ตามในปี 2563 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการลงทุนด้านพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายของการมีแหล่งรายได้ในระยะยาว รวมทั้งการมองหาโอกาสการขยายการลงทุนในประเทศอื่น ๆ เช่น มาเลเซีย, เมียนมา, ไต้หวัน ฯลฯ เพื่อไปมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ คือการเป็นผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย ภายใต้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD รวมทั้งสิ้น 1,200-1,300 เมกะวัตต์ และ 2,000 เมกะวัตต์ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ในปี 2563 ผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2562 ทั้งอัตรากำไรสุทธิ หรือรายได้รวม โดยตั้งเป้าหมายปี 2563 รายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-25% จากปี 2562 และมีการ COD อยู่ในระดับ 1,200–1,300 เมกะวัตต์จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ในโครงการโรงไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ

“ในปีหน้าผมจะต้องเดินหน้าเพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ และจะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ในโครงการโรงไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ และคาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2562 ไม่ว่าจะเป็นในส่วนอัตรากำไรสุทธิ หรือรายได้รวม โดยตั้งเป้าปี 2563 รายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-25% จากปี 2562 และมีการ COD อยู่ในระดับ 1,200–1,300 เมกะวัตต์”  นายจอมทรัพย์ กล่าว