TQM แชมป์หุ้นราคาพุ่ง

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

มีความเคลื่อนไหวอย่างน่าสนใจของหุ้น บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น TQM

TQM เริ่มเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 20 ธันวาคม 2561

ราคาไอพีโอคือ 23.00 บาท

ในช่วง 1 เดือนแรกของการซื้อขาย ราคาหุ้นกลับร่วงลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 23 บาท (อย่างไม่น่าจะเป็นไปได้)

ทว่า หากใครรู้พื้นฐาน และเข้าใจในธุรกิจที่ TQM ทำ

เชื่อว่า นั่นคือช่วงเวลาที่ดีในการรีบเก็บหุ้นเข้าพอร์ต หรือซื้อถือกันยาว ๆ เพราะนอกจากจำนวนหุ้นที่นำมาซื้อขายจะไม่ได้มีมากแล้ว (ไอพีโอ 75 ล้านหุ้น)

พื้นฐานของหุ้นตัวนี้ถือว่า “แน่นเปรี๊ยะ”

ณ สิ้นปี 2561 ราคาหุ้น TQM อยู่ที่ 22.80 บาท

ส่วนสิ้นปี 2562 ราคาหุ้นได้ขยับขึ้นมาเป็น 66.00 บาท เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 189.5%

หรือเป็นหุ้นในกระดานตลาดหุ้นไทยที่มีราคาปรับขึ้นสูงสุดในรอบปี 2562

TQM ถือหุ้นใหญ่โดย “กลุ่มพรรณนิภา” ส่วนอันดับรอง ๆ ลงมา หรือได้รับการจัดสรรหุ้นตอนขายไอพีโอ เช่น  บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต บมจ.เมืองไทยประกันภัย บมจ.วิริยะประกันภัย บมจ.กรุงเทพประกันภัย ฯลฯ

ค่ายประกันเหล่านี้ต่างเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ TQM

หรือ TQM ขายประกันให้กับบริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้

และยังจะมีค่ายประกันขนาดเล็กอีกจำนวนนับสิบ ๆ แห่ง ที่ต้องให้ TQM ขายประกันให้

เบี้ยประกันที่ TQM ทำได้เฉลี่ยต่อปี 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 10% ทุกปี

การทำธุรกิจของ TQM แตกต่างจากบริษัทประกันต่าง ๆ โดยสิ้นเชิง

ไม่ต้องมีการตั้งสำรองฯ หรือมีภาระอะไรต่าง ๆ ที่บริษัทประกันจะต้องดำเนินการตามเกณฑ์ของ คปภ.

นอกเหนือจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่เป็นค่ายประกันต่าง ๆ

ยังมีกองทุนที่ต่างสนใจเข้ามาลงทุนหุ้น TQM ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหลังจากได้เข้าคำนวณใน MSCI และ ล่าสุดคือเข้าคำนวณดัชนี SET100

กรณีนี้ทำให้หุ้นเป็นที่น่าสนใจกับกลุ่มกองทุน และนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้นไปอีก

ล่าสุดคือการมีบิ๊กล็อตจากกลุ่มพรรณนิภาออกมา 5.7 ล้านหุ้น หรือ 1.91% ให้กับสถาบันต่างประเทศ

นัยสำคัญเพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวหุ้นเองด้วย

มีประเด็นน่าสนใจสำหรับดีลบิ๊กล็อตดังกล่าว เมื่อราคาที่ซื้อขายกันนั้นคือ 55.00 บาท คือ เป็นราคาที่สูงกว่า IAA Consensus Target Price 54.25 บาท (ต่ำกว่าราคากระดาน ณ ขณะนั้น 58.00 บาท)

ราคาที่ซื้อขายกันนี้ถือว่ามีนัยสำคัญพอสมควร

เพราะแม้ว่าจะซื้อขายกันต่ำกว่าราคากระดาน

ทว่า หลังนักลงทุนรับทราบข่าว

ราคาหุ้นกลับวิ่งขึ้นไปอีกได้อย่างโดดเด่น แตกต่างจากหุ้นตัวอื่นที่พอมีการซื้อขายต่ำกว่ากระดาน แล้วราคาจะปรับร่วงลงมา

ว่ากันว่า การซื้อของนักลงทุนสถาบันต่างชาติ จะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านราคาได้ค่อนข้างดี

เพราะต่างชาติเวลาซื้อหุ้นแล้ว

จะซื้อถือยาวกันเป็นปี ๆ เช่น 3 ปี หรือ 5 ปี แตกต่างจากกองทุนต่าง ๆ ของไทยที่มักจะซื้อ ๆ ขาย ๆ ในช่วงระยะเวลาที่สั้นกว่า

TQM ยังมีนักลงทุนสาย VI เข้ามาถือหุ้นกันอยู่ด้วยเช่นกัน

ล่าสุด TQM พยายามสร้างโอกาส เพื่อไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวกับธุรกรรมการเงินอื่น ๆ อีก

พร้อมกับการหาพันธมิตรใหม่ ๆ เข้ามาสร้างโอกาสร่วมกัน