พาราสาวะถี

ผ่านพ้นวันขึ้นปีใหม่มา 1 วัน ทุกคนล้วนได้รับคำอวยพรที่ถือเป็นพรอันประเสริฐสำหรับการเริ่มต้นชีวิตในปีใหม่ สิ่งที่ตั้งใจไว้ต้องเริ่มทำกันทันที เพราะวัน เวลานั้นไม่เคยคอยท่าและดูเหมือนว่าจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียด้วย เช่นกัน วันวานเป็นวันแรกที่ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศพร้อมใจกันยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งหรือถุงก๊อบแก๊บ ความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน


อรชุน

ผ่านพ้นวันขึ้นปีใหม่มา 1 วัน ทุกคนล้วนได้รับคำอวยพรที่ถือเป็นพรอันประเสริฐสำหรับการเริ่มต้นชีวิตในปีใหม่ สิ่งที่ตั้งใจไว้ต้องเริ่มทำกันทันที เพราะวัน เวลานั้นไม่เคยคอยท่าและดูเหมือนว่าจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียด้วย เช่นกัน วันวานเป็นวันแรกที่ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศพร้อมใจกันยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งหรือถุงก๊อบแก๊บ ความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน

ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี ประชาชนส่วนใหญ่พร้อมใจกันนำถุงผ้า ตะกร้า หรือสิ่งอื่น ๆ ที่ใช้แทนถุงพลาสติกมาใช้ใส่สิ่งของสำหรับการจับจ่ายใช้สอยในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ทำเอา วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ดูแลโครงการนี้ถึงกับเป็นปลื้ม ซึ่งแน่นอนว่าถ้าทำกันต่อเนื่องมันย่อมส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมเป็นผลดีต่อโลกในการลดภาวะโลกร้อน โดยเป้าหมายคือการลดปริมาณขยะจากถุงพลาสติกหูหิ้วได้ถึง 13,500 ล้านใบ

กลับมาสำรวจความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ความจริงแม้จะเป็นช่วงหยุดเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่ไม่ได้เหนือความคาดหมายเมื่อนักการเมืองแต่ละคน แต่ละพรรค ยังคงออกมาให้ข่าวเป็นประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโชว์ผลงานของตัวเองและพวกพ้องในรอบปีเก่าที่ผ่านไป อย่างไรก็ตาม มีหนึ่งคนที่เปิดประเด็นทางการเมืองและจะส่งผลร้อนแรงต่อเนื่องไปตลอดทั้งปีนี้ นั่นก็คือ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เพิ่งได้ฉายา “มีดโกนขึ้นสนิม”จากสื่อประจำรัฐสภาเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา

โดยจอมหลักการเสนอแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญอันเกี่ยวกับที่มาของส.ว.โดยตำแหน่งนั่นก็คือบรรดาผบ.เหล่าทัพทั้ง 6 เก้าอี้ ที่เห็นว่าไม่ควรจะมีอีกต่อไป ด้วยเหตุผลที่ว่าโดยหลักไม่เคยมีการระบุส.ว.โดยตำแหน่งแบบนี้ เพราะถ้าจะเลือกคนเข้ามาก็ควรเป็นระบบอื่น ตนไม่ได้ว่าตำแหน่งของเขา แต่ในทางประชาธิปไตยไม่ควรไปกำหนดให้ทำอย่างนั้น แต่นายหัวชวนก็ยังเห็นว่าควรที่จะเชิญส.ว.มาร่วมให้ความเห็นต่อการศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย

ต้องเข้าใจว่าความเห็นของอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัยคงไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ เพราะเจ้าตัวประกาศมาโดยตลอดว่า “เป็นคนหนึ่งที่ไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะมีความเป็นประชาธิปไตยน้อยกว่าในอดีต” แน่นอนว่า การไปแตะส.ว.โดยตำแหน่งย่อมมีเสียงคัดค้านมาจากส.ว.อันเป็นลิ่วล้อของเผด็จการสืบทอดอำนาจในทันทีทันใด เสรี สุวรรณภานนท์ คนที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อ้างบริบทรัฐธรรมนูญให้ผบ.เหล่าทัพ 6 คนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้ามามีส่วนในการดูแลความเรียบร้อยของประเทศ

ทั้งที่ความเป็นจริง วิญญูชนทั่วไปก็รับรู้ได้ว่า แม้จะไม่มีหัวโขนความเป็นส.ว.ผบ.เหล่าทัพทั้ง 6 คนโดยอำนาจหน้าที่แล้วก็ต้องดูแลความเรียบร้อยของประเทศอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่ต่างจากที่ส.ว.ลากตั้งหลายรายเที่ยวอ้างกันก่อนหน้านี้ว่า 250 เสียงมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี จนมีเสียงค่อนขอดว่า น่าจะเป็นการดูแลความสงบเรียบร้อยของขบวนการสืบทอดอำนาจเสียมากกว่า เห็นได้จากผลเลือกตั้งที่ผ่านมา หากไม่มีเสียงลากตั้งไม่มีทางที่ผู้นำเผด็จการจะหวนกลับมามีอำนาจอีกหนได้

ไม่จำเป็นที่เสรีจะต้องรีบออกตัวว่าไม่ได้หวงอำนาจ เพราะยากที่จะทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อ มีเพียงพวกที่เชียร์เผด็จการแบบไม่ลืมหูลืมตาและพวกเลียท็อปบู๊ตเท่านั้นที่จะเห็นดีเห็นงามด้วย ความจริงแล้วเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น แม้จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษา แต่แนวโน้มขอความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การแก้ไขสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่มองเป็นเรื่องยากเป็นอย่างยิ่งไม่เว้นแม้กระทั่งแกนนำในพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เป็นผู้ผลักดันให้เกิดคณะกรรมาธิการวิสามัญคณะนี้เอง

อย่างหนึ่งก็คือส.ว.ลากตั้งที่เป็นผู้ขัดขวางหลักนี่ไง ยังไม่นับรวมกลไกที่ถูกออกแบบไว้ให้แก้ไขได้ยากหรือแก้ไขไม่ได้เลย มิหนำซ้ำ เมื่อพิจารณาจากรายชื่อของกรรมาธิการในซีกของพรรคสืบทอดอำนาจและโควตาของคณะรัฐมนตรีแล้ว จำนวนไม่น้อยที่ชัดเจนว่าเป็นผู้ที่ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั่นย่อมทำให้เห็นปลายทางแล้วว่าจะจบลงอย่างไร ที่เหลือแค่รอดูปัญหาและความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ว่าจะดำเนินไปในลักษณะใด

เพราะความที่ชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็ถูกมองเป็นเรื่องเลวร้ายไปเสียหมดในสายตาของผู้มีอำนาจรวมทั้งลิ่วล้อที่เชลียร์พวกสืบทอดอำนาจ กับการไปร่วมงานปีใหม่ของชาวม้งที่จังหวัดตากช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็มีบทความจากทหารอีแอบในนามเสืออากาศ 24/7 โจมตีการไปร่วมงานของธนาธรว่าไม่เหมาะสมด้วยการมองว่าต้องการเพียงคะแนนเสียง และอาจแสดงว่าหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่สนับสนุนการแย่งที่ดินทำกินจากคนพื้นราบให้กับชาวม้งด้วย

พร้อม ๆ กับข้อกล่าวหาวิธีคิดของธนาธรที่ต้องการแจกที่ดินไทยให้กับม้ง ต้องการเพียงคะแนนเสียงทางการเมืองโดยเพียรพยายามมอบที่ดินทำกินที่เป็นผืนแผ่นดินไทยเป็นของชนชาติไทยทั้งชาติให้กับม้ง เป็นการแลกเปลี่ยนสมควรหรือไม่ ในสายตาของคนเขียนบทความอ้างว่าม้งได้รับสิทธิ์บนความเป็นมนุษย์ที่มีสิทธิ์เสรีภาพตามหลักสิทธิมนุษยชน และมีสิทธิ์ในการมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ม้งจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการครอบครองทรัพยากรธรรมชาติบนแผ่นดินไทยไปเป็นของตนเองไม่ว่าจะกรณีใดๆ

นอกจากนั้น คนที่เขียนบทความดังกล่าวยังระบุด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่า แม้ชาวม้งมีสิทธิ์อยู่ในประเทศไทยตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่ชาวม้งไม่ควรได้รับสิทธิ์ครอบครองทรัพยากร และไม่มีสิทธิ์สร้างภาระให้กับคนพื้นราบ ม้งอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยได้ตามสิทธิ์ที่สมควรจะได้ในฐานะเป็นมนุษย์ ทำให้ มานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่ออนาคตใหม่ ในฐานะส.ส.กลุ่มชาติพันธ์กะเหรี่ยงออกมาตอบโต้ในเรื่องดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจ

โดยที่มานพชี้ชัดว่า การวิพากษ์วิจารณ์พี่น้องชาติพันธุ์ในบทความดังกล่าว นอกจากไม่เข้าใจ ขาดความรู้แล้ว ยังเต็มไปด้วยอคติและมีมายาคติต่อพี่น้องชาติพันธุ์ และยังจะนำไปสู่การแบ่งแยกในหมู่พี่น้องประชาชนด้วย ประเด็นนี้ผู้นำที่ดีไม่ว่าจะสืบทอดอำนาจหรือไม่ หากนำไปผนวกกับพวกที่เดินสายพูดเรื่องลัทธิชังชาติ ก็เท่ากับว่าผู้นำสืบทอดอำนาจกำลังส่งเสริมความขัดแย้งและต้องการให้ความขัดแย้งคงอยู่เพื่อตัวเองจะได้อยู่ในอำนาจต่อไปยาวนานหรือไม่

Back to top button