7UP ปักธงรายได้ปี63 โต 15% รุกชิงโรงไฟฟ้าชุมชน-ขยายธุรกิจอุปกรณ์ประหยัดพลังงานทั้งใน-ตปท.
7UP ตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 15% รุกชิงโรงไฟฟ้าชุมชน-ขยายธุรกิจอุปกรณ์ประหยัดพลังงานทั้งใน-ตปท.
นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UP เปิดเผยแผนธุรกิจปี 63 ยังให้ความสำคัญและมุ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นบริษัทด้านพลังงานโดยแท้จริง โดยเตรียมจะเสนอตัวเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ภายหลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ประกาศเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ตามแผนขับเคลื่อนระหว่างปี 63-67 ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะชนะประมูล 2-4 โรง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ภาคใต้ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 20 เมกะวัตต์
ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ประหยัดพลังงานมีแนวโน้มเติบโตที่ดีภายหลังได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยในปี 63 บริษัทได้ทำข้อตกลงกับบริษัทพลังงานชั้นนำของประเทศ 3-4 ราย โดยจะทำหน้าที่เป็นผู้ลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงานบนพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมของลูกค้า มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้โดยการแบ่งผลกำไรจากการประหยัดค่าไฟฟ้าตามสัดส่วน (Profit Sharing)
ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกบริษัทจะให้ความสำคัญกับการบุกตลาดอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในประเทศ และในช่วงครึ่งปีหลังมีความพร้อมจะบุกตลาดต่างประเทศ หลังจากได้จดสิทธิบัตรในประเทศใกล้เคียงกลุ่มประเทศอาเซียนรวม 12 ประเทศ บริษัทคาดหวังว่าธุรกิจดังกล่าวจะเริ่มสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 64 เป็นต้นไป
“สาเหตุสำคัญที่บริษัทมุ่งสู่การก้าวขึ้นเป็นบริษัทพลังงานเต็มรูปแบบ เนื่องจากเล็งเห็นว่าธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่จะสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอและมีความมั่นคงในระยะยาว ในขณะที่ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน พบว่าสร้างอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนสูง อีกทั้ง รูปแบบโมเดลธุรกิจส่งผลให้ทั้งบริษัท และลูกค้าต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ ข้อสำคัญเป็นธุรกิจที่ยังไร้คู่แข่ง เนื่องจากเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่บริษัทได้คิดค้นขึ้นใหม่ โดยได้รับการจดทะเบียนคุ้มครองสิทธิ์จาก กรมทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย” นายสิทธิชัย กล่าว
นายสิทธิชัย กล่าวว่า ธุรกิจข้างต้นจะมีส่วนช่วยเสริมการเติบโตของบริษัทในอนาคต จากปัจจุบันธุรกิจสถานีแก๊สและน้ำมันยังคงสร้างรายได้หลัก ขณะที่ธุรกิจกำจัดขยะนั้นจะเริ่มเห็นผลบวกเต็มปีตั้งแต่ปีนี้ ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยบวกสนับสนุนผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากปี 62 ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 1,300 ล้านบาท หรือเติบโตเกิน 15 % และ ในปี 62 เป็นปีแรกที่ผลประกอบการพลิกมีกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี
สำหรับผลประกอบการในปี 63 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตเกินระดับ 15% คาดว่าธุรกิจกลุ่มสถานีแก๊ส ยังคงสร้างรายได้หลักในสัดส่วน 40% ธุรกิจสื่อสาร 25% ธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรม 15% ธุรกิจพลังงานทดแทน 15% และธุรกิจอื่น ๆ 5%
พร้อมกันนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างพิจารณาหาแนวทางเหมาะสมในการล้างขาดทุนสะสมที่มีจำนวน 1,256 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทฯ กลับมามีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลคืนให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป