PPPM มองผลงานปี 63 พลิกบวก รับยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์โต 20%-ต้นทุนลด 5%
PPPM มองผลงานปี 63 พลิกบวก รับยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์โต 20%-ต้นทุนลด 5%
นายวรุณ อัตถากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 63 จะพลิกเป็นบวก หลังจากในปี 62 ได้รับผลกระทบจากการเข้าไปลงทุนในประเทศญี่ปุ่นก่อนหน้านี้จนส่งผลให้ต้องมีการตั้งสำรองฯ ส่วนในปีนี้แม้ภาพเศรษฐกิจในประเทศ จะยังคงชะลอตัว และระดับโลกยังมีความเสี่ยงจากความขัดแย้งที่อาจก่อให้เกิดสงครามและยังมีข้อพิพาททางการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้การดำเนินธุรกิจและการส่งออกยังมีความผันผวนอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักของบริษัท คือการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ภายในประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค ทำให้เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มท้าย ๆ ที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ดังจะเห็นได้ว่าในปี 62 บริษัทสามารถสร้างยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์ ราว 2,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตราว 10% จากปีก่อนหน้า
ส่วนในปี 63 บริษัทกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ 3 ประการ เพื่อรักษาระดับการเติบโตให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อดันยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์ปีนี้ โต 20% ได้แก่ การบุกตลาดใหม่ ,การคิดค้นสูตรอาหารสัตว์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด และการวางยุทธศาสตร์เรื่องพื้นที่การขายให้เหมาะสมในแต่ละภูมิภาค
ขณะเดียวกันก็จะควบคุมต้นทุนการผลิต รวมถึงผลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าจากระดับ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มาอยู่ในช่วง 29 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบหลัก เพื่อผลิตอาหารสัตว์ โดยเฉพาะกากถั่วเหลืองลดลง ทำให้คาดการณ์ต้นทุนโดยรวมจะลดลงได้อีก 5%
“ในปี 62 ยอดขายจากธุรกิจอาหารสัตว์ของบริษัทยังมีอัตราเติบโต พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจหลัก และพื้นฐานอันแข็งแกร่ง และในปี 63 นี้ บริษัทคาดหวังว่าผลของการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจดังกล่าว จะสามารถผลักดันการเติบโตในด้านยอดขาย พร้อมไปกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการผลิต
โดยจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทพลิกกลับมาเป็นบวก จากปี 62 ซึ่งเป็นปีที่ยอมรับว่ายังคงรับรู้ผลกระทบจากการเข้าไปลงทุนในประเทศญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ต้องตั้งสำรองไว้ แต่เป็นเพียงการบันทึกทางบัญชีเท่านั้นไม่ได้มีผลกระทบในด้านเงินสด เพราะในท้ายที่สุดเมื่อทิศทางการลงทุนมีความชัดเจนมากขึ้นภายในปีนี้ จะส่งผลให้เงินสำรองดังกล่าว แปลงกลับมาเป็นรายได้ให้กับบริษัททันที” นายวรุณ กล่าว
นายวรุณ กล่าวอีกว่า ปีนี้จะเป็นปีที่พื้นฐานของบริษัทมีความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานทางด้านหนี้สิน ทรัพย์สิน รวมไปถึงการดำเนินงานภายในของบริษัทเองด้วย