MTLS เก็งยอดปล่อยสินเชื่อปีนี้ทะลุเป้า หลังแนวโน้มธุรกิจ 2H/58 โตต่อเนื่อง
MTLS คาดปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อพุ่ง 45-50% สูงกว่าเป้าที่คาดว่าจะโต 30% หลังมอง 2H/58 โตต่อเนื่อง หลังภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย เตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 80 แห่งในช่วงครึ่งปีหลัง
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตกว่า 45-50% สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 30% เนื่องจากแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมั่นใจว่าสินเชื่อจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย
ขณะเดียวกันบริษัทมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ อาทิ นาโนไฟแนนซ์ ที่ตั้งเป้าปล่อยกู้ 10 ล้านบาทต่อเดือน จากฐานลูกค้าเดิมที่มีกว่า 700,000 รายทั่วประเทศ และสินเชื่อที่ดิน ทำให้มั่นใจว่าเป้าหมายปล่อยสินเชื่อ 16,500 ล้านบาทในปีนี้จะเป็นไปตามแผนได้อย่างแน่นอน เห็นได้จากยอดปล่อยสินเชื่อในช่วงไตรมาส 2/58 ที่มียอดปล่อยกู้เฉลี่ยสูงถึง 1.5 พันล้านบาท/เดือน
ล่าสุด บริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์จากกระทรวงการคลัง ทำให้เห็นถึงแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อที่มีโอกาสเพิ่มได้อีกมาก สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ก่อนหน้า อีกทั้ง ยังมีการเพิ่มโปรดักท์การเงินใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ปล่อยสินเชื่อที่ดิน ซึ่งทำให้ลูกค้าในระดับรากหญ้าเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 270 สาขา และเตรียมเปิดเพิ่มอีก 80 แห่งในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสาขาเพิ่มเป็น 850 สาขา ภายในปี 58 และในปี 59 และปี 60 เตรียมเปิดเพิ่มปีละ 300 สาขาทั่วประเทศ และในส่วนของการปล่อยสินเชื่อขณะนี้สามารถดำเนินการได้จนทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยไตรมาส 2/58 พอร์ตสินเชื่อโต 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.1% จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 1.2% สะท้อนถึงการบริหารความเสี่ยงที่มีความเป็นเลิศ ภายใต้การบริหารงานของทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ และมีประสบการณ์ในธุรกิจมายาวนาน
สำหรับในเดือน ก.ค.58 บริษัทได้เดินทางไปให้ข้อมูลพื้นฐานกับนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศ ที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ โดยได้รับการตอบรับดีเยี่ยม และมีนักลงทุนสถาบันสนใจติดต่อขอร่วมทุนกับบริษัท เนื่องจากพอใจกับผลการดำเนินงาน และทิศทางการดำเนินธุรกิจ จากช่วงก่อนหน้านี้ที่ได้เคยเข้ามาดูงานในประเทศไทยและติดตามไปดูงานตามสาขาของ บริษัทที่มีการขยายไปทั่วประเทศไทย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในระดับรากหญ้าได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกันยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ