“กทม.” ครองแชมป์อากาศแย่สุดอาเซียน หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ทะยานขึ้นต่อเนื่อง!

กรมควบคุมมลพิษ รายงานข้อมูลคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประจำวันที่ 21 ม.ค.63 เมื่อเวลา 7.00 น. ระบุว่า จากผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร จำนวน 52 สถานี ตรวจวัดค่าได้ 48 – 89 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม) พบปริมาณฝุ่นละอองในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบทุกพื้นที่จากช่วงเช้าของเมื่อวาน

โดยพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) 50 พื้นที่ ซึ่งบริเวณริมถนนสามเสน เขตพระนคร ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงที่สุด อยู่ที่ 89 ไมโครกรัม เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันของวานนี้(20 ม.ค.)

ด้านกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ก็ได้สรุปผลการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประจำวันที่ 21 ม.ค.63 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบว่าเกินค่ามาตรฐานจำนวน 35 พื้นที่ คือ​ เขตราชเทวี เขตสัมพันธวงศ์ เขตพญาไท เขตวังทองหลาง เขตปทุมวัน เขตบางรัก เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตจตุจักร เขตบางกะปิ เขตลาดกระบัง เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตบางเขน เขตบางพลัด เขตบางขุนเทียน เขตสาทร เขตคลองเตย เขตบางซื่อ เขตหลักสี่ เขตสวนหลวง เขตลาดพร้าว เขตคลองสามวา เขตสายไหม เขตห้วยขวาง เขตสะพานสูง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตบางแค เขตจอมทอง เขตดอนเมือง เขตดินแดง เขตพระนคร และเขตราษฎร์บูรณะ

โดยตรวจวัดค่าได้ 54-89 มคก./ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 94.6 จากจำนวนเขตที่มีสถานีตรวจวัดทั้งหมด ซึ่งคุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ขณะที่ airvisual.com เว็บไซต์รายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ 95 ประเทศทั่วโลกแบบเรียลไทม์ เผยการจัดอันดับคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษ ตามมาตรฐาน US AQI เมื่อเวลา 11.32 น. ของวันที่ 21 ม.ค. 63  ระบุสภาพอากาศโดยทั่วไปของกรุงเทพมหานคร ตามมาตรฐาน US AQI อยู่ที่ 167 ส่งผลให้ไทยอยู่ในอันดับที่ 12 เมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก แต่เป็นอันดับ 1 ในอาเซียน รองลงมาคือเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม อยู่ที่ 165 US AQI ตามมาในอันดับที่ 13 ของโลก