รมว.คลัง สั่งทุกหน่วยงานเตรียมแนวทางรับมือหากพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 63 ล่าช้า!
รมว.คลัง สั่งทุกหน่วยงานเตรียมแนวทางรับมือหากพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 63 ล่าช้า!
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวถึงการเตรียมการรับมือหากการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2563 ล่าช้าออกไปว่า ต้องรอดูว่ากระบวนการทางสภาฯจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้ ซึ่งยังไม่ทราบต้องใช้เวลาอีกกี่เดือน หรือต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาหรือไม่
แต่ได้มอบหมายให้หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง พิจารณาแนวทางเลือกต่างๆไว้ และเตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณา และหารือกับทางสำนักงบประมาณไว้ด้วย โดยยอมรับว่า การออกพ.ร.ก.กู้เงิน ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการนำไปพิจารณาด้วย แต่ยืนยันว่า เรื่องงบประมาณที่ล่าช้าจะไม่กระทบต่อแผนการลงทุน และไม่กระทบต่อเงินเดือนข้าราชการ
“เราดูแนวทางอยู่ หากมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราสามารถบริหารจัดการได้ในทุกเรื่อง ทั้งงบประจำและงบลงทุนจะทำอย่างไร”นายอุตตม กล่าว
นายอุตตม กล่าวถึงแนวทางการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าอาจส่งผลต่อการจัดซื้อจัดจ้างว่า ทุกหน่วยงานสามารถเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างไว้ได้ก่อน เพียงแต่ยังไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ ต้องรอให้งบประมาณผ่านก่อน
สำหรับแนวทางปรับโครงสร้างหนี้ของข้าราชการ นายอุตตม ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเรื่องนี้เป็นการดูแลหนี้บุคลากรภาครัฐทั้งครูและข้าราชการ ซึ่งจะเป็นการหารือร่วมกันทั้งจากธนาคารกรุงไทย (KTB) และธนาคารออมสิน ว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง
ส่วนความคืบหน้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟส 2 นั้น นายอุตตม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ โดยขอเวลาพิจารณา 1 เดือน ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมการรับมือหากการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ล่าช้าออกไปว่า ไม่อยากให้มองในแง่ร้าย แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และมีการเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว จึงอยากให้คิดถึงผลกระทบของประเทศโดยส่วนรวม
ซึ่งในขณะนี้การใช้จ่ายงบประมาณก็ถือว่า ล่าช้าอยู่แล้ว แต่หากต้องล่าช้าออกไปอีก ก็อยากให้ล่าช้าน้อยที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะไม่มีเงินลงทุนที่มาหมุนเวียนในระบบได้ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงการคลังก็เตรียมจะผลักดันนโยบายที่จะส่งเสริมให้เอกชนมาลงทุนภายในปีนี้ให้ได้
อย่างไรก็ตาม นายสมคิด เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้(23ม.ค.63) จะประชุมร่วมกับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจเดินหน้าการลงทุนที่มีความพร้อมก่อน รวมถึงหามาตรการจูงใจเพื่อให้เอกชนสนใจการลงทุนด้วย