สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 28 ก.ค.58
– ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 123.00 เยน/ดอลลาร์
– ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1050 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1109 ดอลลาร์/ยูโร
– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,408.07 จุด ลดลง 4.48 จุด หรือ 0.32%
– สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 58 ใหม่มาเหลืออยู่ที่ 3% จากก่อนหน้าที่คาดการณ์ไว้ 3.7% โดยคาดว่าช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจจะโตได้ 3% และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% ขณะที่คาดว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะหดตัว 4% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะโตได้ 0.2%
– ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 3% เนื่องจากขณะนี้ภาครัฐได้ใช้จ่ายเงินไปมากแล้ว และมีการลงทุนของภาคเอกชนเข้ามาเสริม ขณะที่มีปัจจัยหลักคือการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นเข้ามาช่วยลดผลกระทบจากการส่งออกที่หดตัวไปได้มากในช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เชื่อว่าในช่วงไตรมาส 4/58 การส่งออกน่าจะกลับมาดีขึ้นหลังจากเงินบาทอ่อนค่าลงไปมากแล้ว
– สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) ในภาพรวมเดือน มิ.ย.58 หดตัวร้อยละ 8.0 โดยดัชนีอยู่ที่ 155.29 ลดลงจากเดือนมิ.ย.57 ซึ่งดัชนีอยู่ที่ 168.90 โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ลดลง อาทิ HDD โทรทัศน์ รถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ และเบียร์ อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อตอบสนองในประเทศ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.4 โดยเพิ่มขึ้นจากการกลั่นน้ำมันเป็นหลัก
– นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้มีการฟื้นตัวขึ้นกลับมานั้นควรกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้มีการเติบโตได้ดีขึ้นก่อน อย่างเช่น การกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยว ซึ่งมองว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องมากกว่าการเน้นกระตุ้นภาคส่งออก เนื่องจากขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจในตลาดโลกยังไม่ฟื้นตัว เห็นได้จากตัวเลขการส่งออกล่าสุดในเดือน มิ.ย.ที่ออกมาติดลบ 7.8%
– คณะกรรมาธิการด้านบริหารและกำกับดูแลสินทรัพย์รัฐบาลของสภาแห่งรัฐจีน (SASAC) เปิดเผยว่า ผลกำไรของรัฐวิสาหกิจมีเสถียรภาพดีในช่วงครึ่งปีแรก โดยภาครัฐวิสาหกิจมีรายได้จากการดำเนินการอยู่ที่ 11 ล้านล้านหยวน (1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยสามารถทำกำไรได้ถึง 6.43 แสนล้านหยวน
-ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางธนาคารจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่รัดกุมในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แม้ว่ามีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของราคาเนื้อสุกร ที่ถือเป็นอาหารหลักของประเทศ
– สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงอ่อนตัวลง 75 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,150 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,097.95 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 8.11 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
– เอชเอสบีซี ได้ปรับดคาดการณ์ราคาทองเฉลี่ยในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1,160 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 1,234 ดอลลาร์ ขณะที่ลดแนวโน้มราคาทองเฉลี่ยในปีหน้าสู่ระดับ 1,205 ดอลลาร์ จากที่ประเมินไว้ 1,275 ดอลลาร์ พร้อมเตือนว่าราคาทองยังมีแนวโน้มจะเผชิญแรงกดดันในระยะใกล้
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์