ปัจจัยลบรุมเร้า
ปัจจัยเรื่องเทรดวอร์ สหรัฐฯ และจีน รวมถึงความขัดแย้งสหรัฐฯ อิหร่านจะเริ่มคลี่คลายลงไป
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
ปัจจัยเรื่องเทรดวอร์ สหรัฐฯ และจีน รวมถึงความขัดแย้งสหรัฐฯ อิหร่านจะเริ่มคลี่คลายลงไป
แต่ตลาดหุ้นไทยกลับยังไม่ได้รับประโยชน์เหล่านั้น
ในทางกลับกัน กลับมีปัจจัยลบเข้ามาตลอด
หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แจ้งงบไตรมาส 4/2562 กันออกมาครบแล้ว
10 แบงก์ (ตัด TCAP ออกไป) มีกำไรรวมกันกว่า 45,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.67% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2561
ส่วนกำไรทั้งปี 2562 ของกลุ่มแบงก์ มีจำนวน 207,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.59%
ดูตัวเลขภาพรวมแบบนี้แล้วก็น่าจะอุ่นใจ
ทว่า กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เพราะหลายแบงก์มีผลประกอบการน่าผิดหวัง หรือต่ำกว่าการประเมินของนักวิเคราะห์ และความคาดหวังของนักลงทุน
อย่างที่เคยเขียนบอกไป
หากปีนี้หุ้นแบงก์ กับน้ำมันไม่ดี ยังไม่ฟื้นตัว
โอกาสที่ดัชนีจะพุ่งไปข้างหน้ายากเหลือเกิน
จึงต้องมาลุ้นกันว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ของกลุ่มแบงก์จะพลิกกลับมาสร้างความประทับใจได้หรือไม่ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยจะดีนัก
สำหรับหุ้นแบงก์ในตอนนี้
นักวิเคราะห์แนะนำให้เลือกเล่นเป็นรายตัว
และหุ้นแบงก์ที่ดูแล้วน่าจะปลอดภัยสุด หากเป็นแบงก์ใหญ่ไม่พ้น BBL นั่นแหละ
แบงก์กลางเล็กมี TISCO กับ KKP เพราะปันผลสูง
ส่วนหุ้นแบงก์ตัวอื่น ๆ ส่วนใหญ่แนะนำเทรดดิ้ง เล่นสั้น ๆ กันไปก่อน จนกว่าจะเห็นความชัดเจนทั้งเรื่องหนี้เสีย ตั้งสำรอง และการเติบโตของสินเชื่อ
ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ระบาดทั่วโลก
นี่ก็เป็นอีกปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้นไทย
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวถูกจับตา และอาจจะถูกทยอยขายออกมา ทั้ง AOT ERW CENTEL และยังมีหุ้นที่เกี่ยวกับสายการบินต่าง ๆ อีก หุ้นกลุ่มอาหารด้วย
AOT มาร์เก็ตแคปใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก พี่ปอ หรือ PTT
หากจำกันได้ในช่วงของการระบาดของ “โรคซาร์ส” (เกิดจากเชื้อไวรัสตัวเดียวกัน)
ครั้งนั้น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวรูดระนาว 9-10% ในช่วง 7 เดือน
ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัว หลังจากการระบาดเริ่มได้รับการแก้ไขไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ส่วนในครั้งนี้ ก็ต้องมาลุ้นกันอีกแล้วว่า หุ้นท่องเที่ยวจะร่วงลงแรง เหมือนกับเหตุการณ์โรคซาร์สหรือไม่
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข่าวดีท่ามกลางไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาด
นั่นเพราะหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล น่าจะได้รับประโยชน์ จากการที่จะมีคนจีนเข้ามารักษาตัวมากขึ้น
แต่ราคาหุ้นของกลุ่มโรงพยาบาล มีมาร์เก็ตแคปที่ไม่เพียงพอที่จะเข้ามาชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้ จึงไม่น่าจะช่วยพยุงดัชนีได้มากนัก
อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นปัจจัยลบคือ งบประมาณปี 63 ที่กำลังวุ่น ๆ ฝุ่นตลบ
ล่าสุดจะต้องมีการนำเรื่องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกันอีก
ทำให้ตอนนี้ยังทำอะไรกันไม่ได้
นั่งปูเสื่อรอกันต่อไป
และก็ไม่สามารถคาดเดาได้อีกว่า ศาลฯ จะตีความออกไปทางไหน
คำถามคือ หากออกมาเป็นเชิงลบล่ะ
ก็คงจะฝุ่นตลบกันอีก
แต่เห็นว่าล่าสุด ขุนคลัง เตรียมแก้เกมด้วยการออกพ.ร.ก.เงินกู้ลงทุนฯ เข้ามา หาก งบปี 63 เกิดมีปัญหาขึ้นมาจริง ๆ
หากเป็นไปตามนั้น ก็น่าจะพอช่วยได้ เพราะยังไงก็ปล่อยให้ถึงทางตันไม่ได้
ตลาดหุ้นไทยเริ่มเดือนแรกของปี
ก็เริ่มหายาดมกันแล้ว