พาราสาวะถีอรชุน
ในฐานะผู้มีอำนาจย่อมต้องใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ดังนั้น สิ่งที่ได้ยินได้ฟังจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกายังคงอันดับไทยต่อการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ที่ระดับเทียร์ 3 เหมือนเดิม จึงเป็นท่วงทำนองไม่กังวล ไม่ท้อแท้และรู้ด้วยว่าไทยกำลังดำเนินการอะไรอยู่ ก่อนที่จะเรียกร้องให้พี่เบิ้มของโลกอธิบายมาตรฐานต่อการจัดอันดับดังกล่าว
ในฐานะผู้มีอำนาจย่อมต้องใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ดังนั้น สิ่งที่ได้ยินได้ฟังจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกายังคงอันดับไทยต่อการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ที่ระดับเทียร์ 3 เหมือนเดิม จึงเป็นท่วงทำนองไม่กังวล ไม่ท้อแท้และรู้ด้วยว่าไทยกำลังดำเนินการอะไรอยู่ ก่อนที่จะเรียกร้องให้พี่เบิ้มของโลกอธิบายมาตรฐานต่อการจัดอันดับดังกล่าว
คงไม่ต้องรอให้เขาชี้แจงหรือตอบโต้กลับ เพราะเมื่อไปอ่านในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2557 ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะพบความชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง โดยกลุ่มประเทศที่อยู่ในกลุ่มเทียร์ 3 คือกลุ่มที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายสหรัฐฯ และไม่มีความพยายามแก้ไขปัญหา
ในส่วนของประเทศไทยรายงานระบุว่า ปัญหาอยู่ที่การเป็นต้นทาง ปลายทางและเป็นทางผ่านสำหรับการค้าผู้ชาย-ผู้หญิงและเด็ก เพื่อการบังคับใช้แรงงานและการบังคับค้าประเวณี มีเหยื่อจากเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ ที่เข้ามาหางานทำ ซึ่งแรงงานต่างด้าว ชนกลุ่มน้อยและคนไร้สัญชาติเป็นกลุ่มที่เสี่ยงที่สุดในการที่จะตกเป็นเหยื่อของการลักลอบค้ามนุษย์
ขณะที่ถ้าเป็นคนไทยมักตกเป็นเหยื่อของการค้าประเวณีและมีการปฏิบัติต่อเหยื่ออย่างทารุณ ที่สำคัญซึ่งรัฐบาลได้ทำแล้วส่วนหนึ่งแต่เชื่อว่ายังไม่เพียงพอ นั่นก็คือ ในรายงานดังกล่าวระบุรายละเอียดของความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยโดยเฉพาะในกรณีของโรฮิงญา ซึ่งรายงานระบุถึงความพยายามของไทยที่ดีขึ้นบ้าง เช่น ในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูล แต่เมื่อเทียบกับระดับของปัญหายังถือว่าไม่มากพอ การทุจริตในทุกระดับเป็นอุปสรรค
ดูถึงตรงนี้ดูเหมือนจะดี แต่รายงานระบุต่อไปว่า รัฐบาลทำงานล้มเหลวอย่างเป็นระบบทั้งในการสืบสวน ดำเนินคดีและพิพากษาเจ้าของเรือประมงและไต้ก๋งที่บังคับใช้แรงงานจากแรงงานอพยพหรือเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมเหล่านี้ มีการพิพากษานายหน้าจัดหาแรงงานเพียง 2 รายว่ากระทำผิดฐานอำนวยความสะดวกในการบังคับใช้แรงงานในเรือประมง
รัฐบาลไทยแสดงความพยายามไม่เพียงพอในการหาเหยื่อการค้ามนุษย์จากบรรดาแรงงานอพยพที่ยังคงมีความเสี่ยงถูกลงโทษฐานละเมิดกฎหมายเข้าเมือง นี่เป็นแค่บางส่วนจากรายงานดังกล่าว คงไม่ใช่เรื่องยากที่บิ๊กตู่จะทำความเข้าใจ สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่อคติคิดว่าที่ถูกเล่นงานเช่นนี้เป็นปีที่สองติดต่อกัน เพราะมีเรื่องปมการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
แม้จะมีส่วนอยู่บ้างแต่คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะเมื่อถอดปมในแต่ละเรื่องที่เขาได้รายงานมานั้น จะเห็นภาพชัดในหลายประเด็น ล้วนเป็นเรื่องที่ยังแก้ไขไม่หมด โดยเฉพาะกับเจ้าหน้าที่กังฉินกับบรรดาผู้มีอิทธิพลทั้งหลายแหล่ ที่ยังคงไม่เกรงกลัวต่ออำนาจเด็ดขาดของหัวหน้าคสช. งานข่าวของฝ่ายความมั่นคงจะต้องลงลึกมากกว่าสิ่งที่ปรากฏในรายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ยืนยันมาจาก พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กรณีเทียร์ 3 จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่อียูให้ใบเหลืองไทยจากประเด็นการทำประมงที่ผิดกฎหมายโดยไม่รายงานและไร้การควบคุมหรือไอยูยู ด้วยเหตุผลกองทัพเรือดูแลเรื่องการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้มีการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องและไม่มีแรงงานประมงที่ผิดกฎหมายแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น ผบ.ทร.ยังย้ำด้วยว่า เรื่องการทำประมงนั้นภาครัฐมีมาตรการทั้งในเรื่องกฎหมายและการปฏิบัติการตรวจสอบและติดตาม น่าจะตอบได้ว่าเรื่องของประมงไม่ใช่เรื่องของเทียร์ 3 แน่นอน ที่ผ่านมาได้มีการทำเอกสารทั้งหมด รวมถึงขั้นตอนการปฏิบัติก็ทำเอกสารให้กับอียู โดยในเดือนกันยายนก็จะไปคุยกับอียูก่อนที่เขาจะมาตรวจสอบในเดือนตุลาคม เรียกได้ว่าเรื่องนี้มีการแสดงเจตจำนงและมีแผนงานการปฏิบัติชัดเจน
อย่างไรก็ตาม “เสี่ยปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศกลับมองอีกด้าน โดยเตือนรัฐบาลต้องเตรียมใจรับกับการประเมินของอียูเอาไว้ด้วย เพราะถ้าศึกษาจากรายงานของสหรัฐฯ จะเห็นเค้าลางที่จะถูกนำมาเชื่อมโยงกันได้ ก่อนที่จะฝากไปถึงบิ๊กตู่ให้รีบเร่งทำงานให้ตรงเป้าก่อนที่จะสายเกินแก้ คนเก่งคนมีฝีมือเขาวัดกันตรงนี้ การบริหารประเทศไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ใช่เรื่องยาก
สึกออกมาเป็นฆราวาสเรียบร้อย แล้วก็แสดงพลังทันทีสำหรับ สุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยการนำคณะไปยื่นหนังสือคัดค้านการย้ายที่ทำการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปที่จังหวัดภูเก็ต เรียกว่า พอกลับมาก็เริ่มหาคะแนนเสียงทันที อย่างนี้ที่บอกว่าจะไม่เล่นการเมืองท่าจะฟังยาก เพราะเรื่องที่ไปร้องนั้นความจริงไม่ต้องถึงมือเทพเทือก
ส่วนคนนี้เป็นงานแต่จะเป็นกลางหรือเปล่าต้องรอดู พลเอกฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก ในฐานะรองเลขาธิการคสช. รีบออกมาบอกกรณีเทพเทือกเตรียมจะแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ ต้องทำหนังสือให้พิจารณา โดยย้ำว่า การจะแถลงข่าวหรือกิจกรรมใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงเกี่ยวข้องกับการเมือง ต้องขออนุญาตคสช. ว่าจะแถลงข่าวเรื่องอะไร ประเด็นไหน
แต่เป็นงานกว่าคือ ถาวร เสนเนียม ที่ชี้แจงทันควันว่าได้ส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือต่อคสช.แล้ว หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจจะตัดสินใจอย่างไร หากถือบรรทัดฐานกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตยทำกิจกรรมไม่ได้ กลุ่มที่ล้มรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยก็ควรไม่ได้รับสิทธิ์นั้นเช่นกัน เว้นเสียแต่ว่า จะเห็นเป็นอย่างอื่น ประมาณว่าพวกเดียวกัน นั่นก็เชิญแถอธิบายให้คนส่วนใหญ่เข้าใจก็แล้วกัน
สำหรับใครที่สงสัยว่าภารกิจของเทพเทือกจากนี้จะทำอะไร วรชัย เหมะ อดีตส.ส.ปากน้ำ พรรคเพื่อไทยมีคำตอบให้เสร็จสรรพ ตอนบวชเป็นพระก็ออกมาปกป้องรัฐบาลตลอดเวลา แม้แต่เรื่องเรือดำน้ำก็ให้การสนับสนุน ดังนั้น เมื่อสึกออกมาแล้ว สุเทพประกาศชัดเจนว่าจะไม่ลงสมัครส.ส. ไม่เล่นการเมือง เมื่อเป็นเช่นนั้นหน้าที่หลักคงจะเข้ามาปกป้องรัฐบาลคสช. ต้องติดตามกันต่อไป