“บิ๊กตู่” ย้ำหากใช้ยาแรงแก้ปัญหา PM 2.5 ต้องศึกษารอบคอบ หวั่นกระทบหลายส่วน

“บิ๊กตู่” ยันให้ความสำคัญแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เล็งใช้ยาแรง แต่ต้องศึกษาให้รอบคอบ หวั่นกระทบหลายส่วน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลกำหนดแผนไว้ ระหว่างปี 62-67 โดยเตรียมการไว้เพื่อรองรับกับปัญหา พร้อมกับชี้แจงว่าปัญหาเรื่องฝุ่นเกิดขึ้นในประเทศไทยมานานแล้ว แต่อุปกรณ์เครื่องมือวัดคุณภาพอากาศไม่ได้ทันสมัยเหมือนเช่นปัจจุบัน แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าจึงต้องแจ้งเตือนประชาชนเพื่อเป็นการป้องกันและดูแลตัวเอง

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า การแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก โดยมาตรการต่างๆที่จะออกมานั้นประชาชนต้องเกิดการยอมรับ ไม่เช่นนั้นการบังคับใช้กฎหมายก็จะถูกต่อต้าน นี่คือปัญหาใหญ่ของประเทศไทย แม้จะมีกฎหมายพื้นฐานออกมาบังคับใช้ แต่ก็ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบ

สำหรับมาตรการที่เป็นยาแรงหรือบทลงโทษขั้นแรงที่อาจนำมาใช้นั้น ก็ทำเพื่อประชาชนและป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนมากที่สุด พร้อมกันนี้ต้องเร่งสร้างการรับรู้ถึงสาเหตุการเกิดฝุ่น PM 2.5 และมีมาตรการต่างๆไปแก้ไข

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากจะใช้กฎหมายบังคับก็อาจจะเดือดร้อนประชาชน จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะมีหลายกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบ เช่น หากห้ามรถบรรทุกเข้าวิ่งในเขตเมือง ก็จะส่งผลกระทบต่อสินค้าอุปโภค-บริโภค และเมื่อถูกจับเพราะควันดำ สิ่งที่จะตามมาคือค่าขนส่งแพงขึ้น สินค้าต่างๆก็จะแพงขึ้นตามมา ดังนั้น ขอให้ทุกคนคิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย

รวมทั้งได้สั่งการให้ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ซึ่งจากรายงานยังไม่พบโรงงานที่ทำผิดกฎหมาย หรือปล่อยค่าฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน พร้อมกำชับให้จับรถที่ปล่อยควันดำทุกคัน และมีมาตรการห้ามวิ่งหรือหยุดวิ่งด้วย พร้อมมองว่าปัญหาการเผาอ้อยที่สร้างมลพิษนั้น บางบริษัทที่รับซื้ออ้อยก็มีมาตรการออกมาเพื่อดูแลชาวสวน ขณะเดียวกันก็จะลดการรับซื้ออ้อยจากการเผาลง แต่ก็ต้องหามาตรการเสริมเพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวสวน ไม่เช่นนั้นการบังคับกฎหมายห้ามการเผาก็จะไม่เกิดประโยชน์

ส่วนข้อเสนอแนวคิดติดตั้งเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ไว้ในเมืองหลวงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรายละเอียดว่าหากจัดซื้อมาแล้วจะได้ผลหรือไม่ เพราะปัญหาในแต่ละประเทศมีลักษณะไม่เหมือนกัน

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า ว่ารัฐบาลได้เตรียมการป้องกันอย่างเข้มข้น ทั้งนี้อยากให้คนไทยได้วิเคราะห์ถึงมาตรการของประเทศจีนที่สั่งห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก เมืองอู่ฮั่น ซึ่งทางการจีนสามารถห้ามได้ แต่ในประเทศไทยต้องคำนึงถึงงบประมาณและอุปกรณ์ที่มีอยู่ด้วย

Back to top button