เท่าไหร่..ก็เอาไม่อยู่?โมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเวลานี้เหมือนเป็นการวัดกำลังระหว่าง ฝรั่งตาน้ำข้าว กับ ฝูงแมงเม่า และบางครั้งบรรดาแมงเม่ายังต้องต่อสู้กับ กองทุนขี้ตืด มิหนำซ้ำในบางจังหวะยังต้องต่อสู้กับปอบผีฟ้า มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกอึดอัดใจแทนเสียจริงๆ เพราะการเทขายหุ้นทิ้งครั้งนี้เป็นผลมาจากความมั่นใจหดหายลงไปเรื่อยๆ จึงกระหน่ำทิ้งหุ้นแบบไม่มีเยื่อใยเจ้าค่ะ
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเวลานี้เหมือนเป็นการวัดกำลังระหว่าง ฝรั่งตาน้ำข้าว กับ ฝูงแมงเม่า และบางครั้งบรรดาแมงเม่ายังต้องต่อสู้กับ กองทุนขี้ตืด มิหนำซ้ำในบางจังหวะยังต้องต่อสู้กับปอบผีฟ้า มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกอึดอัดใจแทนเสียจริงๆ เพราะการเทขายหุ้นทิ้งครั้งนี้เป็นผลมาจากความมั่นใจหดหายลงไปเรื่อยๆ จึงกระหน่ำทิ้งหุ้นแบบไม่มีเยื่อใยเจ้าค่ะ
*ขนาดหุ้นบลูชิพหลายตัวมีราคาต่ำมากๆ จนไม่รู้จะต่ำอย่างไร กลับมีคนเทขายหุ้นออกมาอย่างหนักหน่วง “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งยวด เพราะเหมือนเป็นการตอกย้ำให้รู้ว่า การรินเทขายหุ้นจะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีกำหนด และถ้ามองตัวเลขของนักลงทุนต่างชาติที่ขนหุ้นออกมาขายปีละ 6-7 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นแรงกดดันที่ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงไปอีกนะจะบอกให้
*เนื่องจากยอดรวมตั้งแต่ต้นปี 58 จนถึงเมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายไปทั้งสิ้น 4.30 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่า การขายหุ้นครั้งนี้เพิ่งเลยกลางทางมานิดหน่อย ยังเหลือของที่สามารถสาดออกมาได้อีกเพียบ ซึ่งส่งผลให้บรรดานักวิเคราะห์สายแข็งปรับลดดัชนีออกมาเนืองๆ หลังตัวเลขหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจแย่ลงเกินกว่าที่คาดนะซี
*วานนี้ถึงเห็นดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,408.07 จุด ลบไป 4.48 จุด ด้วยมูลค่า 3.93 หมื่นล้านบาท และในระหว่างวันลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,401.13 จุด ซึ่งจวนเจียนจะหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา 1,400 จุด ย่อมเป็นการส่งสัญญาณให้รู้แล้วว่า ในไม่ช้าต้องหลุดแน่ๆ เพราะแรงเทขายมาจ่อถึงหน้าบ้าน แค่เคาะอีกนิดๆ หน่อยๆ ดัชนีก็รูดลงทันทีนะจะบอกให้
*ขนาดหุ้นน้องใหม่โปรไฟล์ดีอย่าง WICE ยังทำได้ดีสุดแค่ปิด 3.84 บาท บวกไป 1.74 บาท หรือขึ้นไป 83% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเกือบ 4 พันล้านบาท ทั้งที่ในช่วงเปิดการซื้อขายวิ่งขึ้นไปยืนถึงระดับ 5.50 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของจังหวะเวลาที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ถ้ามองกันดีๆ จังหวะนี้น่าจะมีอะไรเด็ดๆ ให้นักช้อนเข้าทำอีกรอบ จึงแจ้งให้ทราบเพียงเท่านี้แล้วกัน!
*ส่วนในรายของ DAII แมงเม้าท์ลือกันให้แซดว่า ปิดจ๊อบ! หุ้นถึงได้ร่วงลงเละเทะอย่างที่เห็นกันนี่แหละ และสาเหตุที่ทำให้วันแรกหุ้นวิ่งขึ้นไปปิดที่ 12 บาท หรือขึ้นไป 200% (IPO ที่ 4 บาท) เขาเม้าท์ว่า นี่เป็นการฝากของไว้ชั่วคราว! ซึ่งถือเป็นการทำงานอย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง แต่ดันลืมไปว่า ควรมีบริการหลังการขายอีกนิดหน่อย ไม่เช่นนั้นนักเล่นจะหมดความมั่นใจ ซึ่งดูเหมือนไม่มีใครสนใจคำแนะนำดังกล่าว จึงปล่อยให้หุ้นร่วงลงมาปิดที่ 5.60 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 17% ท่ามกลางวอลุ่มเทขายหนาแน่น..ยังจะมีใครกล้ารับอีกไหม?
*เช่นเดียวกับในรายของ GENCO ถ้าวิเคราะห์ตามรูปการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นว่า sell on fact หรือsell on sad ก็คงไม่ผิดเพี้ยนสักเท่าไหร่กระมั้ง เพราะสาเหตุที่ทำให้หุ้นร่วงลงอย่างหนักมาจากดีลไม่ดัน ความหวังที่จะได้โรงไฟฟ้าเข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงากลายเป็นฝันค้างไปเสียฉิบ หุ้นถึงรูดลงมาปิดที่ 1.63 บาท ลบไป 0.45 บาท หรือลงไป 21% และมีสิทธิ์กลับลงไปอยู่ใต้ 1 บาทเหมือนก่อนหน้านี้แหงๆ เพราะหุ้นมันขึ้นมาจากตรงนั้นเจ้าค่ะ
*ส่วนกรณีของ ASIMAR อาจเป็นเรื่องยกเว้น เพราะเจ้านี้มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ บวกกับราคาหุ้นยังวิ่งไม่มาก จึงเหมาะสำหรับการประโคมข่าวเทกโอเวอร์เป็นอย่างยิ่ง และดูเหมือนว่า เรื่องนี้จะได้การตอบรับเป็นอย่างดี “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นมีอาการเหวี่ยงตัวไปมารุนแรง..คิดดูแล้วกัน หุ้นไต่จากระดับ 2.32 บาทขึ้นไปปิดที่ 3.30 บาท ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 วัน แต่วานนี้วันเดียวรูดลงมาปิดที่ 2.72 บาท ลบไป 0.58 บาท หรือลงไป 17.50% มันเป็นเกมโหดชัดๆ นะเนี่ย
*อีกหนึ่งรายที่เข้าขั้นโหดตัวแม่ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่เจ๊ยุพา UPA โดนกดราคาหุ้นลงทุกวันแบบไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย มันเหมือนมีอะไรแอบแฝงไว้บางอย่าง จึงเทขายหุ้นออกมานับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 58 ซึ่งตอนนั้นหุ้นขึ้นไปแตะระดับ 3 บาท ต่อจากนั้นหุ้นก็ไหลลงอย่างต่อเนื่อง จนวานนี้ลงมาปิดที่ 1.69 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 13% มันทำให้เดี๊ยนนึกถึงพวกที่ได้ PP ต้นทุนต่ำที่ออกให้ราคา 0.50 บาทขึ้นมาในทันที…เกี่ยวกัน หรือ ไม่เกี่ยวกัน ก๊วนที่ทำดีลรู้กันเต็มอกนะจ๊ะ
*ก่อนจากกัน “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงหุ้นพื้นฐานดี มีโกรทรองรับอย่าง MTLS ไว้เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่เน้นสไตล์คุณค่า ในเมื่อของมันผ่านการพิสูจน์มาระยะหนึ่งว่า ฐานแนวรับที่ 18.50 บาทเป็นจุดทยอยรับของ ถ้าลงมาหนักเกินกว่านั้น ยิ่งต้องช้อนหุ้นเข้าพอร์ต เพราะในช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างชัดเจน ล่าสุดหุ้นปิดเสมอตัวที่ 18.60 บาท มันใช่โอกาสหรือเปล่า? ลองไปคิดกันดูนะคะ