TQM เสียน้อย…ได้มาก
จากแรงตกอกตกใจ เมื่อ “นภัสนันท์ พรรณนิภา” ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ขาย Big Lot จำนวน 5.5 ล้านหุ้น มูลค่า 385 ล้านบาท ที่ราคา 70 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่ากระดาน...
สำนักข่าวรัชดา
จากแรงตกอกตกใจ เมื่อ “นภัสนันท์ พรรณนิภา” ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ขาย Big Lot จำนวน 5.5 ล้านหุ้น มูลค่า 385 ล้านบาท ที่ราคา 70 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่ากระดาน…
นักลงทุนกังวลจะเป็นการถอยฉากแล้วหรืออย่างไร..?
เพราะลักษณะแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับหลายบริษัทในตลาดฯ ที่เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ทยอยขายหุ้นออกมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเหลือหุ้นน้อยลง
เจ้าของรวยได้เงินก้อนโตเข้ากระเป๋า…แต่บริษัทผลประกอบการถดถอย เนื่องจากขาดความกระตือรือร้นในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท
กลายเป็นภาพจำฝังใจของนักลงทุนที่ไม่อยากให้เกิดซ้ำรอยกับ TQM….
แต่ Big Lot ครั้งนี้น่าสนใจตรงที่สุดท้ายไม่ใช่การสาดหุ้นในกระดาน…แต่เป็นการขายหุ้นเพื่อสร้างพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ ซึ่งคนที่ซื้อก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นกลุ่ม “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” ในนามบริษัท อาคเนย์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นั่นเอง
ที่จริงก่อนหน้านี้ อาคเนย์ ประกันชีวิต ก็ถือหุ้น TQM อยู่แล้ว จำนวน 4.25 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.42% แต่อาจเป็นตัวเลขที่น้อยไปสำหรับเจ้าสัวเบอร์ต้น ๆ ของเมืองไทยอย่าง “เสี่ยเจริญ” จึงเป็นที่มาของ Big Lot ครั้งนี้ ส่งผลให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 9.75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 3.25% ทันที
การจับมือเป็นคู่ธุรกิจคู่ใหม่ของ TQM กับอาคเนย์ ประกันชีวิต ครั้งนี้…ในมุมของ TQM ก็จะได้เป็นนายหน้าขายประกันฯ ให้กับอาคเนย์ ประกันชีวิต และมีโอกาสได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้นจากบริษัทในเครือของ “เสี่ยเจริญ”
ลองนึกภาพตามว่า แค่ขายประกันฯ ให้กับบริษัทในเครือของ “เสี่ยเจริญ” ซึ่งมีธุรกิจครอบคลุมทั้งธุรกิจประกันและการเงิน ธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีก-สินค้า แค่นี้ก็ฟันค่านายหน้าพุงกางแล้ว
เรียกว่า เสียน้อย…แต่ไม่มาก สำหรับ TQM…
ส่วนมุมอาคเนย์ ประกันชีวิต ก็จะมีนายหน้ามาช่วยขายประกันฯ ให้ ทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ต่อไปเป็นแค่ตัวกลางในการบริหารพอร์ตกรมธรรม์เท่านั้น ไม่ต้องกังวลในการหาลูกค้า ไม่ต้องหาเซลส์เพิ่ม ที่สำคัญไม่มีฟิกซ์คอสต์ ทำให้ต้นทุนลดลง แต่ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น…
ในแง่โครงสร้างผู้ถือหุ้น 2 กลุ่มมาจับมือกัน “กลุ่มเสี่ยเจริญ” ไปถือหุ้น TQM ส่วน TQM ก็มาถือหุ้น บริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEG ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ “เสี่ยเจริญ” และถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มธุรกิจการเงินของอาคเนย์…
ดังนั้น ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ “เสี่ยเจริญ”จะไปใช้บริการค่ายอื่น เพราะยิ่ง TQM มีรายได้และกำไรมากขึ้นเท่าไหร่
นั่นหมายถึงดอกและผลที่จะกลับคืนมาสู่ SEG ในฐานะผู้ถือหุ้นมากตามไปด้วย
เกมนี้จึง win-win กันทั้ง 2 ฝ่าย…จัดเป็นสุดยอดดีลอีกหนึ่งดีลเลยทีเดียว
แต่น่าเสียดายที่ผู้บริหาร TQM ออกมาชี้แจงช้าไปหน่อย นักลงทุนมองเป็นข่าวร้าย จึงพากันเทขายหุ้นทิ้งไป…ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา เมื่อเห็นว่าจริง ๆ แล้วดีลนี้เป็นเชิงบวกสำหรับ TQM
ก็น่าจะเป็นบทเรียนสำหรับบริษัทต่าง ๆ ต้องรีบมาบอกกล่าวให้นักลงทุนเข้าใจ อย่าปล่อยให้คิดกันไปเอง เดี๋ยวข่าวดีจะกลายเป็นข่าวร้าย เสียของซะเปล่า ๆ…
…อิ อิ อิ…