วิกฤติ! “ไข้ลาสซา” ระบาดหนักใน “ไนจีเรีย” คร่าชีวิตแล้ว 29 ราย ชี้มีหนูเป็นพาหะนำโรค
วิกฤติ! "ไข้ลาสซา" ระบาดหนักใน "ไนจีเรีย" คร่าชีวิตแล้ว 29 ราย ชี้มีหนูเป็นพาหะนำโรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค.2563 มีการยืนยันแล้วว่าในประเทศไนจีเรียมีผู้ป่วยไข้ลาสซา (Lassa fever) แล้ว 195 ราย และมีผู้เสียชีวิต 29 ราย ใน 11 รัฐ โดยศูนย์ควบคุมโรคระบาดของไนจีเรีย (NCDC) และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติ (EOC) ได้วางมาตรการร่วมกันเกี่ยวกับการจัดการกับระบาด ขณะที่ ดร.Chikwe Ihekweazu ผู้อำนวยการทั่วไปของ NCDC กล่าวว่าการระบาด 89% มาจากรัฐ Ondo, Edo และ Ebonyi ซึ่งมีสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการระบาด
อนึ่ง ไข้ลาสซาเป็นโรคประจำถิ่นของไนจีเรียซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในทุกรอบปี โดยมีสัตว์ฟันแทะเป็นพาหะนำโรค และด้วยจำนวนสัตว์พาหะที่มีมากนี้เองที่ก่อให้เกิดการระบาดในวงกว้างทั้งในไนจีเรียและประเทศใกล้เคียง
โดยไข้ลาสซาเป็นไข้เลือดออกที่เกิดจากเชื้อไวรัสลาสซา สายพันธุ์ Arenavirus แพร่เชื้อจากสัตว์ประเภทหนู โดยการสัมผัสละอองฝอยลมหายใจ หรือสัมผัสอุจจาระ ปัสสาวะ สารคัดหลั่งอื่นๆ ของหนูที่เป็นพาหะ รวมถึงการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด หรือดื่มนํ้าที่ปนเปื้อน และยังสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้โดยการสัมผัสเลือด ปัสสาวะ หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ จากผู้ที่ติดเชื้อ วิธีการหลีกเลี่ยงคือการรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อ รักษาความสะอาดของที่อยู่อาศัยและหลีกเลี่ยงการข้องเกี่ยวกับสัตว์ฟันแทะ
อย่างไรก็ดี เชื้อไวรัสนี้จะมีระยะฟักตัว 7-21 วัน อาการเริ่มต้นของโรคคือ มีไข้ ปวดหัว ท้องร่วง ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ และอื่นๆ โดยในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีเลือดออกทางส่วนเปิดของร่างกาย เช่น จมูก ปาก จนอาจเกิดภาวะตกเลือด ช็อก และเสียชีวิต หากผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาไข้มาลาเรียหรือโรคอื่นๆ ภายใน 48 ชั่วโมง ให้จัดเป็นไข้ลาสซาในทันที ซึ่งในขณะนี้หากพบผู้มีอาการดังกล่าว ให้ผู้ที่ปฏิบัติงานด้านสุขภาพสงสัยว่าเป็นไข้ลาสซาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย และใช้ความระมัดระวังตามมาตรฐานการดูแลเมื่อจัดการผู้ป่วยเพื่อป้องกันตนเองด้วย