โบรกฯเคาะ 4 หุ้นน่าเก็บ! เน้นเอาตัวรอดช่วงวิกฤต “โคโรนา-บาทอ่อน”
โบรกฯเคาะ 4 หุ้นน่าเก็บ! เน้นเอาตัวรอดช่วงวิกฤต “โคโรนา-บาทอ่อน”
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นฟื้นตัวหลังจากปรับตัวลงมาแรงในช่วงต้นสัปดาห์ แม้จะยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขั้นสูงสุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าจากการเบิกจ่ายงบ ประมาณฯ ปี 63 ล่าช้า รายได้ท่องเที่ยวลดลง หลังมีประกาศห้ามทัวร์จีนออกนอกประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. 2563 เพื่อสกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนจากการวินิจฉัย พ.ร.บ. งบประมาณว่าเป็นโมฆะหรือไม่ ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ในกรอบ 1,510 – 1,540 จุด
พร้อมทั้งยังคงต้องจับตาการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภค และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีกำหนดประชุมเกี่ยวกับนโยบายการเงินในช่วงต้นสัปดาห์ ส่วนวันที่ 29 ม.ค.นี้ ทาง สหรัฐ เปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 30 ม.ค.) และในวันที่ 30 ม.ค. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
รวมทั้งอียู เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนม.ค. และ อัตราว่างงานเดือนธ.ค. และสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ GDP ไตรมาส 4/2562 (ประมาณการขั้นต้น) ส่วนวันที่ 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย กำหนดประชุมครม.เศรษฐกิจต่อไป
ด้านนางสาว วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้นั้น อาทิ ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับต้นปีเป็นผลดีต่อการส่งออก และรัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย กระทรวงการคลังเตรียมเสนองบลงทุนผูกพัน เพื่อจะได้ไม่เกิดภาวะ Government Shutdown หากมีการเบิกจ่ายงบประมาณฯ ล่าช้า หรือ มาตรการกระตุ้นการลงทุนเอกชนในการประชุมครม. เศรษฐกิจในวันที่ 31 ม.ค. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมเสนอมาตรการคืนเงินสด (Cash Back) ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติคนละ 3 หมื่นบาทขึ้นได้จะได้เงินคืน 7% ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในระยะสั้นได้
ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์โดยการจัดพอร์ตการลงทุนถือเงินสดไว้ในระดับ 50% ส่วนที่เหลือกระจายลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดหุ้นผันผวน 30% และลงทุนในหุ้น 20% โดยหุ้นที่มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมานั้นเป็นจังหวะที่สะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีการจ่ายปันผลต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้นได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา คือ หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งมีหุ้นเด่นด้วยกัน เช่น BH, BCH และ BDMS รองลงมาคือหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า อาทิ กลุ่มส่งออก เช่น TU