สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 ม.ค. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 ม.ค. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อในช่วงท้ายตลาด หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก เพื่อเปิดทางสู่ความร่วมมือในการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ และโคคา โคล่า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,859.44 จุด เพิ่มขึ้น 124.99 จุด หรือ +0.43% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,283.66 จุด เพิ่มขึ้น 10.26 จุด หรือ +0.31% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,298.93 จุด เพิ่มขึ้น 23.77 จุด หรือ +0.26%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังบวกขึ้นติดต่อกัน 2 วัน โดยตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป และนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีน ซึ่งล่าสุดมีรายงานจำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกในขณะนี้มากกว่า 8,100 ราย และมีผู้เสียชีวิต 170 รายแล้ว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 1.01% ปิดที่ 415.16 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,871.77 จุด ลดลง 83.12 จุด หรือ -1.40%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,157.12 จุด ลดลง 187.88 จุด หรือ -1.41% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,381.96 จุด ลดลง 101.61 จุด หรือ -1.36%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัยพ์เสี่ยงท่ามกลางความวิตกว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีนไปยังประเทศต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังกับการเปิดเผยรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษลงมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงิน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,381.96 จุด ลดลง 101.61 จุด หรือ -1.36%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน โดยรายงานล่าสุดระบุว่า พบการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาจากคนสู่คนเป็นครั้งแรกในสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 52.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.52 ดอลลาร์ หรือ 12.5% ปิดที่ 58.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เชื้อไวรัสโคโรนาได้แพร่ลุกลามไปยังทุกมณฑลของจีนแล้ว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 13.20 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 1,589.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 50.50 เซนต์ หรือ 2.89% ปิดที่ 17.992 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.20 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 980.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 13.50 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2215.70ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อเยนและฟรังก์สวิสซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มขึ้นในจีนและกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.77 เยน จากระดับ 109.05 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9694 ฟรังก์ จากระดับ 0.9731 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3217 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3192 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1029 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1020 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3083 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3022 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6710 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6760 ดอลลาร์สหรัฐ