รอจีนไฟเขียว! “แอร์เอเชีย” พร้อมหนุนภารกิจรัฐบาล จัดเครื่องบินส่งตรงรับคนไทยจากอู่ฮั่น
รอจีนไฟเขียว! “แอร์เอเชีย” พร้อมหนุนภารกิจรัฐบาล ลุยจัดเครื่องบินส่งตรงรับคนไทยในอู่ฮั่นกลับประเทศ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่นว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข บูรณาการทำงานร่วมกัน โดยจะใช้เครื่องบินพาณิชย์ของแอร์เอเชีย ซึ่งขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งเรื่องไปยังทางการจีนเพื่อพิจารณาอนุมัติ
อย่างไรก็ตามต้องใช้เวลาเพราะเป็นเรื่องภายในของทางการจีน และยังไม่ทราบว่าเป็นวันใด แต่หากทางการจีนอนุญาตเมื่อใดก็พร้อมดำเนินการทันที และหากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข จะเดินทางไปรับคนไทยด้วยตนเองตามที่ได้บอกไว้ก็สามารถดำเนินการได้
ส่วนการดูแลผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนานั้น รัฐบาลเตรียมมาตรการดูแลไว้อย่างเต็มที่ ซึ่งคงต้องมีการปรับตัวไปตามสถานการณ์ และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งในส่วนงานของกระทรวงคมนาคมนั้นไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวจึงไม่ได้เสนอมาตรการอะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ส่วนตัวกังวลเรื่องความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 มากกว่า เพราะต้องรอการวินิจของศาลรัฐธรรมนูญก่อน ซึ่งหากไม่มีปัญหาก็สามารถเดินหน้างานต่างๆ ต่อไปได้ แต่หากมีปัญหาก็เชื่อว่าจะมีทางออกและไม่เกิดอุปสรรคในการทำงาน โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาไว้แล้ว และจะไม่ส่งกระทบกับงบรายจ่ายประจำ ส่วนงบลงทุนก็จะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ด้านนาย Tony Fernandes ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สายการบินแอร์เอเชียพร้อมจัดเครื่องบินสนับสนุนภารกิจของรัฐบาล ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ประสานเข้ามาให้บินไปรับคนไทยที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ทันทีที่ได้รับอนุญาตจากทางการจีน
โดยเนื้อหาเอกสารดังกล่าวระบุว่า “ขอขอบคุณรัฐบาลไทยสำหรับความช่วยเหลือที่มอบให้แก่บริษัทแอร์เอเชีย เสมอมา เราพร้อมตอบสนองภารกิจของรัฐบาลในการดูแลประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤตด้านสุขอนามัย รวมไปถึงการบินไปรับประชาชนไทยที่เมืองอู่ฮั่นกลับประเทศ”