เหนือ 1,500 แล้วไง ?

*ช่วงนี้มีเสียงค่อนแคะเกี่ยวกับอาการปากยื่นปากยาวของ “โมนิก้า” ออกมาเยอะแยะในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับสำทับถึงพฤติกรรมการลากไส้ในช่วงหลังค่อนข้างดุดันเป็นพิเศษนั้น มันไม่ได้เกิดจากเดี๊ยนไปกินดีหมีหัวใจเสือที่ไหนมาหรอก! แต่เป็นเพราะรอบเดือนมาไม่ตรงตามกำหนด ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพีทชอบสด (ไม่ใส่ถุง) จึงเกิดอาการหงุดหงิดใจที่เห็นเรื่องบางเรื่องไม่ถูกต้องนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ช่วงนี้มีเสียงค่อนแคะเกี่ยวกับอาการปากยื่นปากยาวของ “โมนิก้า” ออกมาเยอะแยะในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับสำทับถึงพฤติกรรมการลากไส้ในช่วงหลังค่อนข้างดุดันเป็นพิเศษนั้น มันไม่ได้เกิดจากเดี๊ยนไปกินดีหมีหัวใจเสือที่ไหนมาหรอก! แต่เป็นเพราะรอบเดือนมาไม่ตรงตามกำหนด ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพีทชอบสด (ไม่ใส่ถุง) จึงเกิดอาการหงุดหงิดใจที่เห็นเรื่องบางเรื่องไม่ถูกต้องนะคะ

*ตรงจุดนี้เองที่ทำให้ “โมนิก้า” เดินหน้าลุยไฟไปเสียทุกเรื่อง เพราะสิ่งที่ชี้แนะผ่านพื้นที่ตรงนี้เป็นการเปิดโลกทัศน์บนพื้นฐานความเป็นจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ช่วยให้สังคมเกิดการตื่นตัว และมองเกมของมือที่มองไม่เห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง จึงอยากให้นักเล่นพยายามเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ที่เดี๊ยนเม้าท์จนน้ำลายแตกฟอง ส่วนแฟนคลับจะ “เชื่อ” หรือ “ไม่เชื่อ” ก็สามารถใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินกันอีกทีหนึ่งได้เจ้าค่ะ

*เหมือนกับจังหวะที่ดัชนีพุ่งทะยานขึ้นมายืนปิดที่ 1,519.38 จุด บวกไป 23.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.86 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมของการเคาะสั้น ๆ ตามอิทธิพลต่างประเทศ ซึ่งเป็นเกมที่นักเล่นสถาบันถนัดสุด ๆ ในภาวะแบบนี้ เลยอยากถามแฟนคลับว่า การขึ้นมายืนเหนือ 1,500 จุดมันมีความหมายมากมายแค่ไหน ? เพราะมันเห็นกันทนโท่ว่า พื้นฐานยังไม่ซัพพอร์ตไงล่ะคะ

*ยิ่งมองในแง่ของกองทุนตัวแสบที่วานนี้เข้าซื้อหุ้นมากถึง 1.89 พันล้านบาท แต่ยอดรวมตั้งแต่ต้นปียังขายสุทธิสูงถึง 1.20 หมื่นล้านบาท ยิ่งทำให้เห็นพฤติกรรมการเข้าเล่นในช่วงนี้เป็นแค่การซื้อคืนช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อนำไปขายในราคาที่สูงขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้า “โมนิก้า” ถึงเกิดอาการคลางแคลงใจเกี่ยวกับการดีดกลับอย่างร้อนแรงของดัชนี เพราะเมื่อประเมินจากข้อมูลที่มีอยู่ในมือ มันไม่สามารถอธิบายการวิ่งกลับของหุ้นบางตัวได้จริง ๆ นะคะ

*โดยเฉพาะในรายของน้อง MINT วิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 32.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 6.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 743 ล้านบาท ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสมรณะยังคุกรุ่นตลอดเวลา “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่อธิบายยากเหลือเกินในห้วงเวลานี้ เพราะเมื่อส่องกล้องมองไปข้างหน้าก็มีแต่ข่าวปรับลดกำไร จึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรไปมากกว่านี้นะตัวเอง

*รายถัดมาคงเป็นหุ้นสายการบินสีแดงโร่อย่าง AAV เด้งขึ้นอย่างร้อนแรงจากมาตรการช่วยเหลือที่เพิ่งคลอดออกมา จนส่งผลให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.02 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไป 10.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 267 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่เล่นเร็วเกินไปหน่อยอย่างไม่ต้องสงสัย และยังจำคำสอนของกูรูตลาดหุ้นได้ดีว่า ถ้าอยากหมดตัวให้เล่นหุ้นสายการบินนะนายจ๋า!..อิอิอิ

*ขนาดตัวเป้ง ๆ อย่างพี่อ๊อด AOT ยังยอมรับเสียงอ่อย ๆ เกี่ยวกับการฟื้นตัวของธุรกิจสายการบินจะเป็นแบบตัว U ซึ่งมันหมายความว่า เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นหันมามองการขยับตัวขึ้นมายืนปิดที่ 70.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.02 พันล้านบาท มันหมายความว่านักเล่นส่วนใหญ่เข้าใจบริบทเรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้งใช่ไหม ? ถึงไม่บ้าระห่ำไล่ราคาหุ้นแบบไม่คิดชีวิตเหมือนหุ้นบางตัวใช่ไหมเอ่ย ?

*เช่นเดียวกับการวิ่งขึ้นของน้อง BAM ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 27.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 6.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.95 พันล้านบาท พร้อมกับทำ all time high ล้วนมาจากความเชื่อที่ว่า กำไรปี 2563 แจ่มจรัสเกินจะบรรยายเป็นทุนเดิม ผสานกับเศรษฐกิจของประเทศส่อเค้าจะมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นในไม่ช้า เลยเปิดโอกาสให้ได้ช้อปของถูกเข้าพอร์ตได้ไม่อั้น แถมบรรดาแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า 30 บาทชัวร์ ? ผลเลยเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ

*เหมือนกับในรายของสุดเลิฟอย่างหุ้น EA ก็เพิ่งทะยานอย่างร้อนแรงก็อีคราวนี้แหละ! “โมนิก้า” เลยสงสัยเหลือเกินว่า กลัวอะไรกันนักหนา ? ทั้งที่ของมันแบเบอร์มาตั้งนานแล้วว่า ปีนี้กำไรก็ยังพีก! ราคาหุ้นก็ควรขยับขึ้นไปได้ไกลกว่าราคาปัจจุบันมากถึง 15-20% เดี๊ยนเลยอยากให้แฟนคลับพิจารณากันอีกทีว่า การยืนปิดที่ 45.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.34 พันล้านบาท ถูกเกินไปจริงไหมเจ้าคะ

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องเทียบเคียงกับหุ้นโคตรแพง..งง AWC เพื่อทำให้นักเล่นได้เห็นการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 5.60 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 375 ล้านบาท ท่ามกลางค่า P/E 204 เท่า ยังเป็นระดับที่น่าลงทุนไหม ? หรือนักเล่นที่เข้ามาเคาะขวาในเที่ยวนี้ คือนักเล่นที่เข้ามาหาค่าขนมไปวัน ๆ..อันนี้ทุกท่านต้องไปคิดต่ออีกทีนะคะ

 

Back to top button