หุ้นโรงกลั่น-ปิโตรฯไตรมาส 1/63 ไม่พ้นวิกฤต! สเปรด-ค่าการกลั่นไม่ฟื้น พ่วงเจอ Stock Loss

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียง SMM Sport Radio FM 96 MHz. และทางแฟนเพจ Facebook : ข่าวหุ้นธุรกิจ / Facebook : ข่าวหุ้นเจาะตลาด / YouTube Channel : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ “วันพุธที่ 5 กุมพาพันธ์ พ.ศ.2563 ช่วงเวลาประมาณ 9.40 น.”

โดยมองการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (5 ก.พ.63) เป็นการรีบาวด์สั้นๆ เนื่องจากพื้นฐานตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยบวกหนุนเฉพาะตัว แต่เป็นเพียงการปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ขณะที่มองว่า ดัชนีฯมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,530 จุด และเสี่ยงจะถูกขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดหุ้นไทยจะเป็นขาขึ้นในระยะยาวได้หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1,545 จุด ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดของตลาดหุ้นไทยในปี 62

อีกทั้งเปิดเผยถึงการลงทุนในหุ้นในกลุ่มพลังงานว่ายังเป็นกลุ่มที่กดดันดัชนีฯ หลังจากราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดว่าการประชุมโอเปค (OPEC) ที่จะมีการประชุมรอบใหม่ในช่วงเดือนมีนาคมจะส่งสัญญาณลดกำลังการผลิตออกมาซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันกลับมาปรับตัวขึ้นได้ โดยยังแนะนำ “ซื้อสะสม” หุ้นกลุ่มพลังงานในช่วงอ่อนตัว แต่ต้องระมัดระวังการเก็งกำไร

นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงาน (Operation) ของหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีในไตรมาส 1/63 ว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงจากไตรมาส 4/62 โดยในกลุ่มปิโตรเคมียังมีปัจจัยกดดันจากสเปรดปิโตรเคมียังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ขณะที่หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นยังมีปัจจัยกดดันจากค่าการกลั่นที่ยังทรงตัว

ทั้งนี้มองว่ากลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีมีโอกาสขาดทุนสต็อก (Stock Loss) จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากไตรมาส 4/62 ซึ่งราคาน้ำมันยังอยู่ในช่วงระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ปัจจุบันปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งจะเป็นตัวกดดันผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/63

“กลุ่มปิโตรฯ และโรงกลั่นจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งหากปัจจัยลบด้านการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และสงครามการค้าคลี่คลายลง ซึ่งยังต้องจับตาจากภาวะตลาดในภาพรวม” นายชัยยศ กล่าวในตอนท้าย