GLOCON เปิดแผนปี 63 รุกธุรกิจอาหารเต็มสูบ ตั้งเป้ายอดขายโตไม่ต่ำกว่า 88%
GLOCON เปิดแผนปี 63 รุกธุรกิจอาหารเต็มสูบ ตั้งเป้ายอดขายโตไม่ต่ำกว่า 88%
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 2563 จะเป็นปีที่บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพ จากการปรับกลยุทธ์ในธุรกิจเดิม ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ ขยายฐานลูกค้า และการขยายไปยังธุรกิจใหม่ที่เข้าลงทุน โดยตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 2,260 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 88% จากปีก่อน
โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจอาหาร (Food) เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิมอยู่ที่ 50% และธุรกิจบรรจุภัณฑ์อยู่ที่ (Non-Food) 40% โดยเชื่อว่า ผลประกอบการน่าจะสามารถพลิกเป็นกำไรได้ เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทฯ คาดหวังว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมภายใน 2-3 ปีจากนี้
“บริษัทฯ จะรุกธุรกิจอาหารมากขึ้น โดยจะขยายร้าน A&W เพิ่มอีก 10-15 สาขา เน้นในทำเลย่านสถาบันการศึกษา พร้อมขยายช่องทางอาหารในร้านสะดวกซื้อ 7-11 และลดสาขาที่ขาดทุนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าเช่าที่แพง การขยายเมนูอาหารประเภทข้าว ซึ่งปัจจุบันธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานที่จำหน่ายในคอนวีเนียนสโตร์เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 2 เท่าตัว และมีมากกว่า 10 เมนู
ส่วนธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์ (Packaging) เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง แต่ยังเติบโตได้ดี บริษัทฯ จึงปรับกลยุทธ์ ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มพลาสติกชนิดอ่อน หรือ Flexible Packaging มีแนวโน้มที่โดดเด่น และกำไรดี รวมทั้ง มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มองหาโอกาสการเติบโตในทุกรูปแบบ ทั้งการลงทุนร่วมกับพันธมิตร การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมไปทั้งโปรเจกต์อื่นๆ ในอนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่สินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการเข้าซื้อธุรกิจผลไม้อบแห้งจาก บริษัท ไวต้าฟู้ด แฟคทอรี่ (1989) จํากัด เป็นเงิน 48.50 ล้านบาท และให้บริษัท ฟรุตตี้ดราย จํากัด (FD) บริหารจัดการธุรกิจดังกล่าว และเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท ฟรุตตี้ดราย จํากัด (FD) สัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียนและทุนชําระแล้วเพื่อเป็นบริษัทย่อย เป็นเงิน 25.50 ล้านบาท รวมเป็นเงินลงทุนทั้งหมด 74 ล้านบาท
ขณะที่ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับในการลงทุนครั้งนี้ เนื่องจากการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ FD สัดส่วน 51% ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้กำไรจากธุรกิจดังกล่าวเข้ามาทันทีในปีนี้ จากการประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลไม้อบแห้ง รวมถึงผลตอบแทนจากโครงการทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตทั้งทรัพย์สินและผลกำไรอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ส่วนการเข้าซื้อธุรกิจผลไม้อบแห้ง คาดว่าบริษัทย่อยดังกล่าวจะสามารถเพิ่มธุรกิจส่งออกประเภทผลไม้อบแห้งในหลายประเทศขนาดใหญ่ เช่น ประเทศแถบยุโรป และสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น ยังสามารถต่อยอดธุรกิจของ GLOCON โดยเฉพาะธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ขวด และกล่องพลาสติก ให้สามารถเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้า และเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้น สนับสนุนนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นที่จะทำผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคตามเป้าหมายของที่ตั้งไว้ รวมทั้งเพิ่มยอดขายและความสามารถในการทำกำไรที่ดี