ราคาทองปิดวานนี้ร่วงกว่า 3 ดอลล์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนรับทราบผลการประชุมและแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,092.60 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 10.1 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 14.743 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 984.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดทองคำปิดทำการซื้อขายก่อนที่การประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดจะเสร็จสิ้นลงในวันพุธ ท่ามกลางการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. แต่เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาด ทำให้มีการคาดการณ์กันใหม่ว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปเป็นเดือนก.ย.
การขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้นักลงทุนขายทองและหันไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า โดยเฟดไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยมาตั้งแต่เดือนมิ.ย.2549 หรือก่อนที่วิกฤตการเงินจะเริ่มต้นขึ้น
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.11% แตะที่ 96.76 เมื่อเวลา 00.20 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย ดัชนีนี้เป็นมาตรวัดดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักๆ โดยปกติแล้ว ทองและดอลลาร์จะเคลื่อนตัวในทิศทางตรงข้ามกัน ซึ่งหมายความว่าหากดอลลาร์ปรับตัวขึ้น สัญญาทองก็จะปรับตัวลง เนื่องจากทอง ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์ จะมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ภาวะซื้อขายในวันพุธได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากการที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 1.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 110.3 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. หลังทำสถิติพุ่งแตะระดับสูงสุดในปีนี้ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีจะเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนมิ.ย.